เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศใกล้งานเทศกาลวันลอยกระทง วันเพ็ญเดือน 12 ทำให้มีประชาชนหลายพื้นที่ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐเอกชน ต่างพากันจัดเตรียมทำกระทงไว้จำหน่าย หรือทำไว้ลอยเอง ในคืนวันลอยกระทงที่จะมาถึง ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 25 พฤศจิกายน 2558
โดยในปีนี้หลายหน่วยงาน นอกจากจะได้เน้นส่งเสริม รณรงค์ ให้ประชาชนอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทยแล้ว ยังได้เน้นในเรื่องการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชน เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา ช่วยกันประดิษฐ์กระทงจากวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ไม่เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้หลายคนต่างคิดค้นหาวิธีทำสิ่งประดิษฐ์กระทง ลดมลภาวะออกมาหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในปีนี้ใบตองหายาก และมีราคาแพง เนื่องจากผลกระทบจากสภาพอากาศแห้งแล้ง บวกกับพื้นที่ จ.นครพนม มีสวนกล้วยขายใบตองน้อยไม่เพียงพอขาย ทำให้ขาดตลาดหายาก และมีราคาแพงกว่าทุกปี ทำให้ประชาชนต่างหันไปทำกระทงจากวัสดุที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ย่อยสลายง่าย ราคาประหยัด สวยงาม
เช่นเดียวกับคุณกานดา นามหม่อง อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่งานทะเบียนอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีไอเดียเก๋พยายามหาวิธีคิดค้นประดิษฐ์กระทงจากวัสดุที่ไม่เกิดมลภาวะต่อสภาพแวดล้อม โดยได้ศึกษาคิดค้น ออกแบบ ประดิษฐ์กระทง จากโคลนไอศกรีมที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาด ในราคาอันละประมาณ 50 สตางค์ เท่านั้น แต่สามารถนำมาประดิษฐ์เป็นกระทงที่มีความสวยงาม ลงตัว เป็นที่สนใจ มีประชาชนมาติดต่อสั่งซื้อไปเตรียมลอย จำนวนมาก จนไม่สามารถผลิตได้ทัน
คุณกานดา นามหม่อง อายุ 38 ปี เจ้าของไอเดียกระทงโคนไอศกรีม เล่าถึงที่มาของการประดิษฐ์กระทงจากโคนไอศกรีมว่า ในปีนี้เป็นปีที่ 5 ที่ตนประดิษฐ์กระทงจากโคนไอศกรีมขาย เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาในงานประเพณีลอยกระทงในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เห็นประชาชนจำนวนมาก ยังประดิษฐ์กระทงจากโฟม ต้นกล้วย รวมถึงวัสดุที่ย่อยสลายยาก ทำให้แม่น้ำโขง และแหล่งน้ำตามสวนสาธารณะเกิดมลพิษ
จึงมีความคิดที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาสภาพแวดล้อม จึงได้ศึกษา หาวิธีประดิษฐ์กระทงจากโคนไอศกรีมกับเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัด เพื่อนำมาขายในงานลอยกระทง จนเป็นที่สนใจมีประชาชนมาซื้อไปลอยจำนวนมากในปีที่ผ่านมา ทำให้ในปีนี้ตนจึงประดิษฐ์กระทงจากโคนไอศกรีมไว้จำหน่ายอีก ซึ่งกำไรจากการขายนั้นได้จำนวนไม่มากนัก แต่ถือว่าได้มีส่วนช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
คุณกานดา กล่าวอีกว่า สำหรับกระทงโคลนไอศกรีม จะทำจากวัสดุประกอบด้วย กระดาษ และโคนไอศกรีมทำจากขนมปังเท่านั้น โดยขั้นตอนการประดิษฐ์จะเริ่มจากการนำกระดาษมาตัด ม้วนเป็นวงกลมติดกาวเป็นฐานของกระทง ก่อนนำโคนไอศกรีมที่ตัด ที่ใช้ความชำนาญเฉพาะตัว ตัดเป็นลวดลายคล้ายดอกไม้ ตามแบบที่คิดค้นเอง มาทากาวประกอบ แปะติดเป็นชั้นให้เกิดความสวยงามตามต้องการ จนออกมาเป็นกระทงที่มีความสวยงาม สามารถนำมาลอยน้ำได้เสมือนกระทงที่ทำจากต้นกล้วย แต่ที่สำคัญคือย่อยสลายง่าย เมื่อปล่อยไหลไปตามน้ำเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ย่อยสลายหมด แถมปลายังกินเป็นอาหารได้อีก ซึ่งกระทง 1 อันจะใช้โคนไอศกรีมประมาณ 10 -12 อัน
ส่วนสีสันหากต้องการความสวยงามก็สามารถสั่งให้ร้านขนมปังทำโคนไอศครีมออกมาได้หลากสีตามต้องการ ในรูปแบบต่างๆ มีทั้งกระทงทั่วไป รวมถึงรูปแบบเป็นเรือ สำหรับต้นทุนกระทงจะตกอันละประมาณ 20 บาท โดยจะนำมาขายส่งในราคา 15 บาท หรือขายย่อยราคาอันละ 20 – 30 บาท แล้วแต่รูปแบบ ในแต่ละปีตนจะทำกระทงไอศกรีมได้ประมาณ 4,000 – 5,000 อัน ซึ่งทำเองตามกำลังไม่ได้จ้างแรงงาน เพราะไม่ได้หวังกำไรมาก เพียงเหลือค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แต่ได้ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และอยากขอเชิญชวนให้ประชาชนหันมาใช้กระทงจากวัสดุย่อยสลายง่าย ไม่เกิดมลภาวะ เป็นการลดภาวะโลกร้อน