นำเสนอข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพ sanook
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2556 นักแสดงสาว “หนิง ปณิตา” เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.วรพรรณ พันธุ์คงชื่น หรือ ไฮโซน้ำหวาน และนางอำไพพรรณ พันธุ์คงชื่น มารดา ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา
หมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ด้วยการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายแขนง ทำนองว่าโจทก์ น้องสาวโจทก์ กับพวก ร่วมกันทำร้ายร่างกายที่ร้านอาหารย่านทองหล่อ
โดยใช้โทรศัพท์มือถือตี น.ส.วรพรรณ จำเลยที่ 1 และข้อความอื่น ซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
เว็บไซต์โดดเด่นดอทคอม ( www.dodeden.com ) รายงานว่าล่าสุดเมื่อเวลา 10:00 น. ของวันนี้ (10 มีนาคม 2558) ศาลได้ตัดสินคำพิพากษาออกมาแล้วให้ น.ส.วรพรรณและมารดา จำคุก1ปี 6 เดือน ปรับ7.5หมื่น และรอลงอาญา 2 ปี
ซึ่งการมาฟังคำศาลตัดสินครั้งนี้ สาวหนิงไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเอง โดยทางสื่อมวลชนมีโอกาสได้สัมภาษณ์ น.ส.วรพรรณ มารดา และทนาย ทั้งสามยอมรับในคำตัดสินของศาล และจะขอยื่นอุทธรณ์ต่อทันที
ไฮโซน้ำหวาน: วันนี้ผู้พิพากษาได้ตัดสินแล้วนะคะ ก็ยอมรับในคำตัดสินของศาล
ทนาย: ในเรื่องต่างๆ ทางด้านของกฎหมาย จะขอพิจารณาและใช้สิทธิ์อุทธรณ์ตามกฎหมายต่อไปครับ
ศาลตัดสินว่าอย่างไรบ้าง?
ทนาย: พิจารณาในเรื่องว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรแค่นั้นเอง ส่วนอย่างอื่นก็เป็นเรื่องของคดี ตอนนี้คงพูดมากไม่ได้ ขอใช้สิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ต่อไป
เราตั้งใจจะเดินหน้ายื่นคำอุทธรณ์ต่อ?
ไฮโซน้ำหวาน: ใช่ค่ะ ก็ต้องปกป้องในสิทธิของตัวเอง ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง
ทนาย: ส่วนรายละเอียดต้องขอไปปรึกษาอีกทีว่า ท่านวินิจฉัยรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง และมาดูพยานหลักฐานอีกครั้ง เพื่อจะใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์
มั่นใจกับครั้งต่อไปแค่ไหน?
ไฮโซน้ำหวาน: มั่นใจค่ะ อุทธรณ์ก็คงทำเลยค่ะ
จากที่มีข่าวว่าจำคุก 1 ปี 6 เดือน ปรับ 7.5 หมื่นบาท จริงไหม?
ทนาย: ตามคำพิพากษาครับ แต่รอลงอาญา
จะมีการขอโทษตามข้อตกลงหรือเปล่า?
ไฮโซน้ำหวาน: ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ
ทนาย: อันนั้นเป็นรายละเอียดที่ทางเขาเสนอมา แต่ทางน้องน้ำหวานเองก็ยังยืนยันตามข้อเท็จจริง คงใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์ต่อ
สภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
ไฮโซน้ำหวาน: โอเคค่ะ (ยิ้ม)
ศาลนัดมาอีกทีวันไหน?
ทนาย: ไม่ต้องนัดในส่วนนี้ เดี๋ยวจะมีเวลาที่จะนำคำอุทธรณ์มายื่นต่อศาล
คุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง?
คุณแม่: ไม่มีอะไรค่ะ ไม่เป็นไร ก็น้อมรับในคำพิพากษาของศาลนะคะ และจะใช้สิทธิ์ทางด้านกฎหมาย ให้ทนายยื่นคำอุทธรณ์ต่อไป ที่พูดไปก็เป็นข้อเท็จจริง เราจะแยกให้เป็นคนละคดีกัน ทำร้ายร่างกายกับคดีตรงนี้ ที่พูดไปเราใช้สิทธิ์ของความเป็นแม่ ปกป้องลูกสาว ในเรื่องของคำตัดสินตรงนี้น้อมรับค่ะ”