หลังปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนซี้ บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ กับโย ยศวดี หัสดีวิจิตร จนบี-น้ำทิพย์ ออกมาระบุถึงความสัมพันธ์ในขณะนี้เหลือแค่เพื่อนร่วมโลกเท่านั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ต.ค. โย-ยศวดี เปิดใจในงานแถลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพในแบรนด์ของตัวเอง ว่า ยอมรับว่าธุรกิจตัวนี้เคยคุยกับบี-น้ำทิพย์ ว่าจะทำด้วยกัน คุยกันตั้งแต่ตอนที่ทำอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะธุรกิจอาหารมันมีช่วงพีคและดาวน์
พอปีนี้มันดาวน์เยอะมากเพราะมีคู่แข่งจึงคิดว่าน่ามีตัวอื่นมาซัพพอร์ต เขาก็บอกว่าสนใจ แต่มาติดปัญหาเมื่อเขาเปลี่ยนใจไม่อยากทำ ไม่อยากลงทุน ก็บอกว่าโอเค แต่ต้องบอกว่าตั้งแต่ชวนเขามาทำธุรกิจ ไม่เคยให้เขาลงทุนเลย และธุรกิจนี้ก็เตรียมจะลงทุนให้
เมื่อถามว่าแสดงว่าบี เป็นหุ้นลมมาตลอด โย-ยศวดี เผยว่า โยแค่พูดเรื่องจริง ไม่ได้ทำร้ายหรือทำลายเขา ธุรกิจโยบี โยตัดสินใจลงทุนเองทั้งหมด แต่ชวนบีมาร่วม เขาทราบว่าเขาเองไม่ได้ลงทุนใดๆ จนถึงวันนี้ที่เปิดธุรกิจมา 20 เดือน บีก็ยังไม่ได้เคยลงทุน โดยบีเอจะมาช่วยโปรโมตโดยใช้ภาพลักษณ์ของนักแสดง
หุ้นโยบีจริงๆ มี 3 หุ้น คือโย บี และพี่เอ อัญชลี(หัสดีวิจิตร) แต่การแบ่งกำไรให้บี 50 เปอร์เซ็นต์ โดยที่โยกับเอแบ่งกัน แต่พี่เอซึ่งทำหน้าที่เป็นเอ็มดี ก็มีเงินเดือนอยู่ จึงไม่ต้องปันส่วนให้มาก
ช่วงที่มาดร็อปเรื่องธุรกิจอาหารน่าจะเป็นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ช่วงนั้นก็พูดกันว่าถ้าไม่ไหวจะทำยังไง ประมาณเดือนส.ค. โยจึงตัดสินใจที่จะปิดธุรกิจในอีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งบีก็เห็นชอบด้วย
ต่อข้อถามว่าแล้วจุดแตกหักอยู่ตรงไหน โย กล่าวว่า จุดแตกหักมาตอนที่จะปิดธุรกิจ ซึ่งต้องมีเงินรองรับ ไม่ใช่จะปิดก็ปิดได้เลย ต้องมีเงินสำรองจ่ายลูกน้องอีก 10 กว่าคนที่จะถูกพักงาน ซึ่งก็เข้าใจบี ที่เขาไม่เคยเข้ามาทำงานตรงนี้ เลยมองเห็นแต่รายได้ ไม่รู้รายจ่าย พอมาดูก็อาจจะไม่เข้าใจ ซึ่งเราเองก็พร้อมจะเคลียร์ให้ดู แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่บีคิด ตอนเดือนส.ค.เลยตัดสินใจจะปิดธุรกิจโยบีในวันที่ 4 ต.ค. ก็ขอให้มาดูวันนั้นจะได้รู้ว่าบริษัทมีเงินเหลือหรือมีผลกำไรเท่านั้น
“จริงๆ แล้วตั้งแต่เปิดธุรกิจมา บีได้กำไรไปมาก เท่ากันกับที่โยได้ ไม่ได้น้อยกว่า โดยที่เขาไม่ได้ลงทุนอะไรเลย ช่วงก่อนเดือนส.ค.ยอมรับว่ามีช่วงดร็อป ต้องไปเอาเงินของบีมาลงทุน 2 แสนบาทจริง แต่ก็คืนเขาในเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ เท่ากับเหมือนเดิมว่าบีไม่เคยลงทุนจริงๆ บีไม่ต้องจ่ายอะไรเลย เวลานี้แค่ต้องการให้มาเซ็นยอมรับในการปิดบริษัทและมาดูบัญชีทั้งหมดที่เกิดขึ้นมา 20 เดือนว่าบีพอใจไหม มันเป็นไปตามถูกต้องที่บีกับผู้ช่วยต้องการหรือเปล่า ถ้ามีส่วนไหนที่บีคิดว่าเงินหาย ถูกโกง ผลกำไรที่ปันได้ไม่ถูกต้อง ยินดีที่จะรับฟัง”
“ปัจจุบันกิจการไม่มีหนี้สินใดๆกับซัพพลายเออร์ บริษัทปิดแล้ว ทุกอย่างจบ แต่มันไม่จบจุดเดียวคือบีไม่ยอมมาฟัง เราทำให้ทุกอย่างที่จะปิดบริษัทให้ดีที่สุด และได้ผลประโยชน์สำหรับทุกคน แต่เรียกให้บีมาประชุม ก็บอกว่าไม่ว่าง และพร้อมจะดับเครื่องชน ฟังแบบนี้ก็เสียใจ
รู้สึกว่าทำไมถึงต้องดับเครื่องชน ในเมื่อถ้าบีลดในเรื่องของอคติและมีสติในการแก้ปัญหา ปัญหานี้เล็กมาก ถ้าเราแก้ด้วยความรักแล้วมันยังมีความเป็นเพื่อนกันอยู่จริงๆ มันไม่ควรที่จะมาไกลจนถึงขนาดนี้ โยเองไม่มีชนักติดหลัง ฉะนั้นไม่กลัว”
เมื่อถามว่ายังเข้าใจผิดกันอยู่ โยเผยว่า ใช่ แค่ไม่ถึงกับโกรธ และก็ยังไม่ได้คุยกัน ไปเจอกันที่แอลแฟชั่นวีค ก็เดินเจอกันแต่ไม่ทัก พี่ๆก็อยากให้คุยกัน ถ้ามันไม่มีใครโกงกันจริงๆ ก็แค่ยอมรับและหันหน้ามาคุยกันก็จบ ที่ผ่านมาก็มีทั้ง เก๋-ชลลดา และเข็ม-รุจิรา มาเป็นกาวใจ แต่ก็อยู่ที่เจ้าตัวพร้อมฟังหรือไม่
ต่อข้อถามว่าคาดหวังว่าสิ่งที่พูดวันนี้จะทำให้บีเปิดใจรับฟังไหม โยกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือแล้วร้องไห้ออกมา ว่า “อยากให้นึกถึงว่าเวลานี้โยยังต้องดูแลหลายชีวิต อยากให้มีเหตุผลมากๆ กับการทำธุรกิจใหม่ โยไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่ดูแลลูกน้องให้รอด การปิดโยบีไม่มีใครถามซักคำว่าว่าลูกน้องอีก10 กว่าคนจะอยู่ยังไง โยทำดีที่สุดแล้วที่คนๆ นึงจะทำให้ ทุกวันนี้ก็ไม่เคยโกรธบี คิดว่าบีเป็นน้องและรักบีเสมอ แต่วันนี้ขอแค่ความยุติธรรมให้โยบ้าง”
เมื่อถามถึงที่บีบอกว่าโยเป็นแค่เพื่อนร่วมโลกไม่ขอสุงสิง โยกล่าวว่า เขาพูดได้ แต่สำหรับโย โยทำไม่ได้ เพราะทุกวันที่ทำงานกับเขาโยอึดอัดมาก ถึงขนาดพูดว่าแฟชั่นวีคปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่จะทำ เพราะมันเป็นที่ที่อยู่แล้วไม่มีความสุข ถามคำนึง เวลาเรารักใครซักคนมันสามารถตัดได้จริงๆ ไหม เป็นโย โยตัดไม่ได้ แต่ถ้าจะไม่คบกันเป็นเพื่อน ไม่เป็นไร แต่ขอให้เคลียร์ทุกอย่างให้ชัดเจนแล้วรับฟังคนอื่นบ้าง
“อยากให้จบให้ดีที่สุด อยู่แบบสันติ ไม่ต้องมีการจองล้างจองผลาญกัน ไม่ต้องมีการด่ากันตามโซเชียลเน็ตเวิร์ก โยไม่เคยว่าเขาแม้แต่คำเดียว ก็อยากได้สิ่งนั้นบ้าง”
ที่มา ข่าวสด
