เดี๋ยวนี้การแต่งหน้าสไตล์สาวเกาหลีกำลังมาแรง และ หญิงแย้ -นนทพร ธีระวัฒนสุข พิธีกรสาวสวยรายการ “แฟชั่นบันลือโลก” ทางช่อง จีเอ็มเอ็ม ชาแนล ผู้ได้รับฉายา “เจ้าแม่ศัลยกรรม” ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่แต่งหน้าโคฟเวอร์คนดังได้เหมือนแบบสุด ๆ
วันนี้ “สตาร์ เทรนดี้” เลยขอท้าทายความสามารถเธอให้มาแต่งหน้าโคฟเวอร์นักร้องสาว “ทิฟฟานี่” วง “เกิร์ลเจเนอเรชั่น” งานนี้จะสวยและเหมือนแค่ไหน เราตามมาดูเทคนิคของเธอกัน
ขั้นที่ 1 เตรียมผิวให้พร้อม “การเตรียมผิวให้พร้อมเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดค่ะ ซึ่งแย้จะใช้สกินแคร์แบบเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้นทาบนผิวหน้า เป็นการบำรุงผิวก่อนแต่ง แย้คิดว่าขั้นตอนนี้จำเป็นสำหรับคนผิวแห้ง เพราะจะทำให้รองพื้นนั้นติดผิวทนนานมากยิ่งขึ้น
พอเราทาเซรั่มเสร็จก็ต้องรอสักพักนึงให้เซรั่มซึมเข้าสู่ผิว จากนั้นถึงจะแต่งหน้าในขั้นต่อไป สำหรับเทคนิคในการทาเซรั่ม คือเราจะใช้นิ้วที่ถนัดทาขึ้นด้านบน เหมือนเป็นการเปิดรูขุมขน ทำให้เซรั่มซึมเข้าผิวได้ดีค่ะ”
ขั้นที่ 2 รองพื้นเพื่อหน้าเรียบเนียน “แย้จะเลือกใช้บีบีครีม เพราะเนื้อบางเบากว่าครีมรองพื้น อีกอย่างบีบีเกลี่ยง่ายกว่าด้วย สำหรับการทารองพื้นนั้น แย้จะใช้ผสมระหว่างบีบีเนื้อสีเขียว ซึ่งจะทำให้หน้าเราดูสว่างและกลบรอยแดง ผสมกับบีบีสีเนื้อ ที่ทำให้บีบีสีเขียวนั้นดูเนียนสนิทไปกับผิว
เทคนิคในการทา คือการใช้ฟองน้ำทรงกลมเกลี่ยแทนการใช้มือเกลี่ย เนื่องจากมือเรามีเส้นลายมือเยอะ บางทีเส้นลายมืออาจติดที่หน้าได้ ส่วนฟองน้ำที่เลือกแบบกลม เพราะมันสามารถเข้ากับส่วนโค้งของใบหน้า เช่น ข้างแก้มหรือข้างจมูกได้ง่าย สำหรับการแต่งหน้าตามเรฟเฟอเรนซ์ เราต้องดูผิวของคนต้นแบบที่เราจะแต่งด้วย อย่าง “ทิฟฟานี่” ผิวเขาจะเป็นแบบขาวจั๊วะ และเป็นโทนชมพูใส ๆ เราก็จะพยายามแต่งให้ได้ผิวคล้ายแบบนั้น แต่ที่สำคัญต้องไม่ให้ทิ้งผิวจริงของเราไปเยอะ ไม่อย่างนั้นจะดูหลอกตาได้ ซึ่งหลังจากเกลี่ยทั่วหน้าแล้ว เราก็ใช้ฟองน้ำกดเนื้อครีมกับหน้าเราอีกครั้ง เพื่อให้บีบีติดกับผิวเราแน่น ๆ”
ขั้นที่ 3 กำจัดจุดบกพร่อง “เราปกปิดรอยต่าง ๆ บนหน้าด้วยคอนซิลเลอร์ ซึ่งหากใครผิวแห้ง แย้แนะนำว่าไม่ควรใช้แบบแท่ง เพราะจะดูแตกระแหงมาก สำหรับแย้เองก็มีผิวค่อนข้างแห้ง เลยเลือกใช้คอนซิลเลอร์แบบผสม โดยใช้แบบแท่งสีอ่อนปกปิดจุดสิว ใต้ตา และรอยต่าง ๆ บนใบหน้า แล้วตามด้วยแบบลิขวิดสีเข้มตบปิดอีกที จากนั้นก็ใช้ฟองน้ำกดให้เข้าที่เรียบเนียน”
ขั้นที่ 4 เฉดดิ้งให้ได้รูป “ส่วนตัวแย้ชอบตัวเฉดดิ้งแบบครีมมากกว่า เพราะมันติดผิวตั้งแต่เช้ายันมืดเลยค่ะ ซึ่งจะเลือกสีเฉดดิ้งแบบเข้มสุด แล้วใช้วิธีกะน้ำหนักมือในการทา ซึ่งแย้เริ่มเฉดดิ้งที่ข้างจมูกก่อน โดยใช้นิ้วมือค่อย ๆ เกลี่ยไล้ ซึ่งขั้นตอนนี้เราต้องระวัง เพราะถ้าลงผิดรูปจมูกเราจะเปลี่ยน จากนั้นเราก็มาเฉดที่กรอบหน้าโดยใช้สีเข้มเบอร์เดียวกับที่ไล้ข้างจมูก ให้ใบหน้าเรียวได้รูป”
ขั้นที่ 5 ลงแป้งให้หน้าเด้ง “แย้เลือกใช้แป้งฝุ่น แล้วใช้พัฟค่อย ๆ กดจนทั่วใบหน้า จากนั้นเก็บตกส่วนเกินของแป้งฝุ่นด้วยการใช้แปรงเบอร์ใหญ่ปัด หลังจากนั้นใช้แปรงเบอร์เล็กแต้มเฉดดิ้งแบบฝุ่นสีน้ำตาลทาบริเวณคิ้วให้มีมิติขึ้น”
ขั้นที่ 6 คิ้วอ่อนเส้นตรง “การวาดคิ้วเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราแต่งหน้าได้เหมือนคนที่เป็นต้นแบบของเรา ซึ่งวันนี้แย้เลือกที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นสีน้ำตาลอ่อน เนื่องจากคิ้วของทิฟฟานี่ค่อนข้างสีอ่อนมาก และเป็นคิ้วทรงตรง ดังนั้นแย้จะใช้พู่กันปลายเล็กวาดหางคิ้วให้ตรงก่อน จากนั้นก็ใช้มาสคาร่าสีทองปัดสีคิ้วให้เหมือนกับต้นแบบค่ะ”
ขั้นที่ 7 เปลือกตาเอิร์ธโทน “สำหรับทิฟฟานี่เธอเลือกใช้สีเอิร์ธโทนน้ำตาล และมีกริตเตอร์เบามาก ๆ ที่เปลือกตา ดังนั้นแย้จะใช้อายแชโดว์แบบฝุ่นสีน้ำตาลสีอ่อนทาบริเวณใต้โหนกคิ้วก่อน จากนั้นก็ใช้สีทองวิ้ง ๆ ทาเหนือรอยพับตาบนและบริเวณใต้ตา ปิดท้ายที่ใช้สีน้ำตาลเนื้อแมททาตรงใต้รอยพับเปลือกตาอีกที เพื่อลดความบวมของตาแย้เอง”
ขั้นที่ 8 กรีดอายไลเนอร์เพิ่มความโดดเด่น “ขอบตาของทิฟฟานี่ค่อนข้างแน่นทีเดียว ดังนั้นแย้จะกรีดอายไลเนอร์ด้วยเนื้อลิขวิดสีดำสนิทที่ตาบนก่อน โดยกรีดให้หนา และเขียนเป็นเส้นตรงยาวเลยหางตามาพอสมควร จากนั้นก็เขียนขอบตาล่างด้วยอายไลเนอร์แบบเจลสีดำเช่นกัน
ที่สำคัญต้องเป็นชนิดกันน้ำด้วย ทาให้หนา จากนั้นใช้อายแชโดว์แบบฝุ่นสีดำทาทับ โดยใช้พู่กันหัวเล็กเบลนด์ให้ดูฟุ้ง โดยเกลี่ยจากหางตามาที่หัวตา ปิดท้ายด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลทองทาเบา ๆ ที่ใต้ตาอีกที”
ขั้นที่ 9 เพิ่มตาหวานด้วยขนตาปลอม “ดัดและปัดขนตาด้วยมาสคาร่าสีดำสนิท จากนั้นก็ติดขนตาปลอมแบบบางธรรมชาติที่ตาบน ส่วนตาล่างของทิฟฟานี่ค่อนข้างเข้มมาก ดังนั้นแย้จะทาเจลไลเนอร์สีน้ำตาลเข้มที่ตาล่างอีกครั้ง เพื่อให้ตาดูกลมโต จากนั้นใช้ชิมเมอร์แบบเจลสีทองทาใต้ตาเพิ่มความวิ้งอีกที ก่อนที่จะติดขนตาปลอมที่ใต้ขนตาล่าง โดยติดเป็นช่อ ๆ ห่างกันตามควร”
ขั้นที่ 10 แก้ม ปาก เป็นธรรมชาติ “ดูเหมือนว่าทิฟฟานี่จะไม่แต่งแก้มเลย แต่เราแต่งตามเขาท่าจะไม่รอด (ยิ้ม) ดังนั้น แย้จะใช้บลัชออนโทนสีส้มอิฐ ส่วนปากเลือกสีส้มนู้ดเนื้อแมท และสีชมพูอ่อนเนื้อแมท ทาผสมกัน”
ขั้นที่ 11 ตบท้ายด้วยการลงไฮไลต์ให้หน้าเด่น “แย้เลือกใช้ไฮไลต์โทนสีส้ม โดยจะใช้นิ้วไล้บริเวณโหนกแก้ม จมูก คาง ขอบปากบน หัวคิ้ว ปิดท้ายที่การใช้แปรงปัดบริเวณหน้าผากค่ะ”
หญิงแย้ กล่าวปิดท้ายว่า “แย้เป็นคนที่แต่งหน้าทุกวัน บางวันแต่งไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งก็มี ซึ่งเวลาแต่งหน้าแย้จะมีความสุขมาก สำหรับที่แต่งหน้าเป็น “ทิฟฟานี่” ในวันนี้ เทคนิคสำคัญคือเราต้องแต่งตามเรฟเฟอเรนซ์ โดยเฉพาะคิ้ว ซึ่งหากว่าคิ้วเปลี่ยน หน้าเราก็จะเปลี่ยนไปเลย
รวมทั้งสีปากด้วย ต้องดูว่าเขาใช้สีไหน ในส่วนสีผิว แย้ไม่อยากให้โฟกัสเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายถ้าเราพยายามแต่งเกาหลีที่มีผิวขาว แต่ผิวเราไม่ได้ มันก็จะส่งผลร้ายต่อเราเอง อยากให้ดูผิวเราเป็นหลัก สิ่งไหนเลียนแบบเขาได้ค่อยทำตามค่ะ สำหรับประโยชน์ในการแต่งหน้าจริง ๆ หลายคนที่มีเราเป็นไอดอล แล้วไปศัลยกรรม เสร็จแล้วมาบอกว่า ทำไมไม่เห็นชีวิตเปลี่ยนเหมือนหญิงแย้เลย
คือต้องบอกว่าในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของแย้มันมาจากศัลยกรรม แค่ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่มาจากเมคอัพ 50 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นเรื่องของทัศนคติการทำงาน แย้ว่าบางทีการแต่งหน้า มันดีกว่าการศัลยกรรมซะอีก ถ้าให้แย้ย้อนกลับไปสมัยที่เรายังไม่มีซิลิโคลนบนหน้า และแย้แต่งหน้าเก่งเหมือนทุกวันนี้ แย้ว่าตัวเองก็น่าจะสวยได้เหมือนกัน ดังนั้นใครอยากสวยขึ้นลองเมคอัพดูก่อน บางทีคุณอาจจะไม่ต้องศัลยกรรมเลยก็ได้ค่ะ”
เอ้า ใครอยากสวยใสสไตล์ทิฟฟานี่ ก็อย่าลืมเอาเทคนิคการแต่งหน้าเริด ๆ ของ “หญิงแย้” ไปลองทำตามกันดูนะ.