เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วันที่ 27 มิถุนายน ศูนย์วิทยุนรสิงห์สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาครได้รับแจ้ง มีรถบรรทุก 10 ล้อ ทำรถแทร็คเตอร์ตักดินตกบนถนนพระราม 2 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33+700 ช่องทางด่วน ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ใต้สะพานยูเทิร์นกลับรถเนาวรัตน์ หมู่ที่ 2 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
จึงประสานตำรวจสายตรวจจากนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาครไปตรวจสอบ ก็พบรถแทร็คเตอร์ตักดินขนาดเล็กสีเหลืองพลิกตะแคงติดอยู่กับแท่งแบริเออร์ตรงใต้สะพานกลับรถขาลง สภาพตัวรถได้รับความเสียหายทั้งด้านบน และด้านข้าง มีน้ำมันสีดำไหลออกมา ขณะที่พื้นปูนริมถนนพระราม 2 ยังมีร่องรอยของการถูกกระแทกเป็นทางยาว จนเป็นร่องลึกประมาณ 7 เซนติเมตร
ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถบรรทุก 10 ล้อยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 81 – 8250 สมุทรสาคร เปิดไฟกระพริบจอดอยู่ข้างทางในช่องทางด่วน ซึ่งเป็นรถที่ใช้บรรทุกรถแทร็คเตอร์มา ก่อนที่จะตกหล่นบนถนนพระราม 2 ด้านหลังรถบรรทุกสิบล้อไม่มีกระบะปิดกั้น
ส่วนคนขับรถบรรทุกคือ นายวิเชียร สุขเสริม อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/12 หมู่ที่ 2 ต.โรงเข้ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและรอรถเครนมายกรถออกจากถนนพระราม 2 เพื่อนำเข้าซ่อม โดยด้รับการช่วยเหลือจากตำรวจทางหลวงสมุทรสาคร มาคอยอำนวยความสะดวกโบกรถที่สัญจรบนถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า กทม.เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
จากการสอบถามนายวิเชียร สุขเสริม คนขับรถบรรทุก 10 ล้อ และเป็นเจ้าของรถแทร็คเตอร์คันดังกล่าวเล่าว่าใช้รถ 10 ล้อ ที่ไม่มีฝากระบะท้ายปิดกั้นทำการบรรทุกรถแทร็คเตอร์คันนี้มาจากสถานที่ทำงานในตำบลบางโทรัด อ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อนำไปใช้ไถดินลูกรังหรือเกลี่ยดินลูกรังอีกที่หนึ่งในอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งปกติจะมีคนงานเป็นคนขับรถมาแทน แต่ว่าวันนี้ตนเองอยากจะขับเอง
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่าเกิดขับรถบรรทุกตกหลุมบนถนน ประกอบกับขับมาด้วยความเร็ว จึงทำให้รถแทร็คเตอร์ที่บรรทุกอยู่ด้านหลังตกลงไปบนถนนพระราม 2 โชคดีที่ไม่มีรถขับตามมาข้างหลัง และรถแทร็คเตอร์ยังกลิ้งเข้าไปข้างทาง ไม่กลิ้งออกไปอีกฝั่งหนึ่ง ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้รถที่สัญจรบนถนนพระราม 2 ได้รับอันตรายไปด้วย
ทั้งนี้เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นายวิเชียร สุขเสริม เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เนื่องจากมีทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย
