เนื้อหาโดย Dodeden.com

เราได้ยินวิธีการไดเอ็ทตามโฆษณาหรือหน้าหนังสือมากมาย อย่าง 2 สูตรนี้ที่ได้ยินมาบ่อยมากๆ แต่มันจะชัวร์แน่เหรอ? มาดูกันค่ะ

High Fat
ช่วงหนึ่ง มีเทรนด์ที่บอกว่าการบริโภคไขมันจะทําให้คุณผอมลง ที่มาที่ไปของความคิดนี้ก็คือการรักษาระดับอินซูลินให้ต่ำ โดยการหลีกเลี่ยงบริโภคคาร์โบไฮเดรต เพื่อบังคับให้ร่างกายดึงไขมันไปเผาผลาญ หรือที่ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า ภาวะคีโตซิส (Ketosis) ข้อดีก็คือ ไขมันจะถูกย่อยช้าๆ คุณจะรู้สึกอิ่มอร่อยหลังมื้ออาหารได้นานขึ้น แผนการไดเอ็ทแบบนี้ดีต่อสุขภาพมากกว่าสูตรแอตกินส์ (Atkins) เพราะทั้งไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันปลา อะโวคาโด ถั่ว และไขมันอิ่มตัวอย่างเนยและครีม ก็สามารถย่อยได้ด้วย แต่มีข้อเสียคือ การลดน้ำหนักแบบนี้อาจยากที่จะทําในระยะยาว เพราะสารอาหารอื่นไม่ได้ถูกรวมอยู่ด้วย เช่น ถั่วเมล็ดบางจําพวก นม ผลไม้ ซึ่งอาจทําให้ร่างกายขาดไฟเบอร์ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ และยังไม่มีผลวิจัยชี้ชัดว่าการไดเอ็ทแบบนี้จะไม่ทําให้น้ำหนักที่ลดไปกลับมาอีก

Sugar-Free
ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เรารู้กันดีว่าน้ำตาลเป็นศัตรูระดับชาติของสาวที่กําลังไดเอ็ต หนังสือและสูตรอาหารสําหรับไดเอ็ทมากมายแนะนําให้ตัดน้ำตาลออกไป เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้ผอมลง สุขภาพดีและรู้สึกกระปรี้กระเปร่ากว่าเดิม ข้อดีคือ การหักดิบน้ำตาลโดยการหลีกเลี่ยงการกินอาหารแปรรูปนั้น เป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยลดแคลอรี่และน้ำหนัก อีกทั้งยังง่ายตรงที่สามารถอ่านฉลาก ก็รู้จํานวนน้ำตาลูก่อนเลือกทานได้ การไดเอ็ทแบบนี้จะเป็นการควบคุมพฤติกรรมการกินให้เอื้อต่อสุขภาพมากขึ้น จะสอนให้คุณเปลี่ยนวิธีการซื้อกับข้าว ทำอาหาร และการกิน ซึ่งทุกกระบวนการจะช่วยให้คุณน้ำหนักลดลงได้ แต่ก็มีข้อเสียคือ บางคําแนะนําอาจจะสุดโต่งเกินไป (เช่น ให้เลี่ยงการกินผลไม้) การหยุดกินน้ำตาลทุกรูปแบบใช้ไม่ได้ผลกับหลายๆ คน งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า น้ำตาลในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ทําให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และคําแนะนําที่ว่าน้ำตาลอาจเป็นพิษนั้น เป็นเพียงงานวิจัยในสัตว์ ไม่ใช่กับมนุษย์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ต่างบอกว่ามันไม่มีผลต่อร่างกายขนาดนั้น

การไดเอ็ทแบบนี้อาจจะได้ผลกับบางคนในระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นการไดเอ็ทด้วยวิธีใดก็ตาม ก็ค่อนข้างยากที่จะทำได้อย่างต่อเนื่องนานๆ เพราะอาจเสี่ยงต่อสุขภาพในภายหลัง ทางที่ดีจึงควรบริโภคสารอาหารให้พอเหมาะ และเพียงพอกับความต้องการของร่างกายจะดีกว่าค่ะ

เรื่องน่าสนใจ