วัยรุ่นฮิตฉีดท็อกซิน หรือที่เรียกกันติดปากว่า โบท็อกซ์ มากขึ้น อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 19-20 ปี แพทย์เตือนห้ามฉีดกับหมอกระเป๋า และไปฉีดตามคอนโด หรือห้องเช่า เหตุไม่มีเครื่องช่วยชีวิตเบื้องต้นอาจถึงตาย เผย 4 กลุ่มสุดเสี่ยงห้ามฉีดเด็ดขาด แนะถามชื่อและยี่ห้อยาทุกครั้งก่อนฉีด
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง เปิดเผยว่า การฉีดท็อกซิน หรือที่ติดปากเรียกกันว่า โบท็อกซ์(เป็นชื่อทางการค้าของท็อกซินยี่ห้อหนึ่ง) คือการฉีดสารเติมเต็มในส่วนที่ผู้ฉีดต้องการให้กลับมาเต่งตึง เช่น หน้าผาก หางตา ข้างปาก และคาง เป็นต้น เนื่องจากเป็นบริเวณที่มักพบรอยเหี่ยวย่นง่าย ซึ่งขณะนี้การฉีดท็อกซิน (โบท็อกซ์)เพื่อความงามกำลังเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง แม้แต่สถิติจำนวนผู้เข้ารับบริการที่สถาบันโรคผิวหนัง ยังพบว่ามีผู้ใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมมีผู้รับบริการเฉลี่ยเดือนละ 10 คน กลับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ 100 คน ที่สำคัญอายุเฉลี่ยของผู้ใช้บริการกลับต่ำลงเรื่อยๆ อยู่ที่อายุ 19-20 ปี
นพ.จินดา กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการเลือกฉีดท็อกซิน (โบท็อกซ์) ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย คือ
“การฉีดท็อกซิน (โบท็อกซ์) เป็นเรื่องธรรมดาที่มักจะพบอาการแทรกซ้อน ดังนั้น กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ กลุ่มคนที่มีประวัติแพ้ง่าย กลุ่มคนที่มีปัญหาเลือดออกแล้วหยุดยาก และกลุ่มที่มีอาการเนื้อเยื้อหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ควรที่จะฉีดโบท็อกซ์เด็ดขาด เพราะจะแพ้ง่ายและอาจเกิดอันตรายมากกว่ากลุ่มอื่น” นพ.จินดา กล่าว
ก่อนฉีดท็อกซิน (โบท็อกซ์) ทุกครั้ง ผู้ที่จะทำการฉีดต้องสอบถามยี่ห้อและชนิดของยาก่อน เนื่องจากหากเกิดข้อผิดพลาดจะได้รู้ว่ายาที่ใช้ฉีดเป็นยาชนิดไหนและประเภทใด เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้หาทางแก้ไขได้ทัน นอกจากนี้ ก่อนรับการฉีดก็ควรที่จะศึกษาศึกษาข้อมูลของแพทย์และสถานที่ที่จะไปฉีดด้วย รวมถึงหาข้อมูลจากหลายๆแห่งก่อนตัดสินใจฉีด
ขอบคุณที่มาจาก ผู้จัดการ