ที่มา: Doctor.or.th

สิว…สิ่งเล็กๆ ที่สร้างผลกระทบได้มากกว่าที่คุณคิด
นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังกล่าวว่า”เนื่องจากโรคสิวเป็นโรคที่พบบ่อยและก่อความกังวลให้แก่ผู้ป่วย ผู้ป่วยมักมีความเชื่อที่ผิดเกี่ยวกับโรคสิว ทำให้การรักษาไม่ได้ผล ความเชื่อที่ผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคสิว มีดังนี้ 

woman taking care of her skin face

 

1. เชื่อว่าฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเป็นสาเหตุของสิว จึงล้างหน้าฟอกสบู่บ่อยๆ ความเชื่อนี้ทำให้ผู้เป็นสิวล้างหน้าบ่อยเกินไป และใช้สบู่ที่แรงหรือสบู่ยา ทำให้หน้าอักเสบ ระคายเคือง และสิวกำเริบขึ้น

2. เชื่อว่ากินช็อกโกแลตแล้วทำให้สิวขึ้น
ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าอาหารพวกช็อกโกแลต มันฝรั่ง ถั่วทอด พิซซ่า อาหารมันๆ น้ำอัดลม หรือไอศกรีม กระตุ้นให้สิวเกิดขึ้น
อาหารพวกไอศกรีมและนมไม่ทำให้สิวกำเริบ ยกเว้นกรณีผู้ที่เป็นสิวอักเสบและรักษาโดยกินยากลุ่มเตตราไซคลีน ไม่ควรดื่มนมภายในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งก่อน หรือ 2 ชั่วโมงหลังกินยา เพราะแคลเซียมในนมขัดขวางการดูดซึมของยา

3. เชื่อว่าสิวเป็นแค่เรื่องความงาม
ไม่ได้เป็นโรคผิวหนัง ก็เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะสิวที่รุนแรงหากปล่อยให้หายเองจะทิ้งแผลเป็นอย่างมาก มีงานวิจัยชี้ว่าแผลเป็นเหล่านี้ส่งผลเสียทางจิตใจอย่างชัดเจน พบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคสิวเรื้อรัง ร้อยละ 44 เกิดความกังวล และร้อยละ 18 มีอารมณ์ซึมเศร้า

4. เชื่อว่าแสงแดดทำให้สิวดีขึ้น
แสงแดดอาจทำให้ดูเหมือนว่าสิวดีขึ้น เพราะแสงแดดทำให้ผิวไหม้แดงและผิวคล้ำลง ช่วยบดบังรอยแดงรอยดำจากสิวอักเสบ แต่แท้จริงแล้วนอกจากแสงแดดเป็นอันตรายต่อผิวหนังแล้ว แสงแดดยังทำให้ผิวระคายเคืองและสิวกำเริบ

5. เชื่อว่าการรักษาสิวนั้นยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี
วัยรุ่นที่เป็นสิวเชื่อว่าการรักษาสิวนั้นยิ่งใช้ยาแรงยิ่งได้ผลดี ที่จริงแล้วถ้ายาความเข้มข้นต่ำได้ผลดีก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแรงขึ้น นอกจากจะเสียเงินมากขึ้นโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจเกิดผลแทรกซ้อน เช่น การระคายเคืองมากขึ้น

ทั้งนี้ การรักษาสิวที่ถูกต้องนั้น ผู้ป่วยควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรอย่างเคร่งครัด ไม่ควรไปหลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริงของผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตออกมาเพื่อผลในทางการค้า

เรื่องน่าสนใจ