ในปัจจุบันนี้เราคงจะปฏิเสธไม่ได้ถึงค่านิยมเกี่ยวกับผิวขาวในสังคมไทย โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น หรือสาวๆ ซึ่งให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้กันมาก โดยคนเอเชียส่วนใหญ่จะเห็นพ้องต้องกันว่า ผิวที่ขาว คือ ผิวที่สวย และเป็นลักษณะที่ดี สืบเนื่องมาจากค่านิยมเก่าแก่ที่ว่าจะเป็นเจ้าคนนายคนต้องมีรูปร่างผิวพรรณที่ดี หรือแม้กระทั่งอิทธิพลของสื่อโฆษณาที่ใช้ดาราผิวขาว หรือกระแสคลั่งดาราเกาหลี โดยที่หารู้ไม่ว่าในเบื้องหลังเหล่านั้น ได้มีการใช้เทคนิคตกแต่งจนเกินจริง และผู้รับชมสื่อเหล่านั้นกลับมองข้ามความจริงเหล่านั้นไปมุ่งหวังเพียงผิวขาวใสที่จะได้รับเท่านั้น โดยมิได้คำนึงถึงอันตรายของสารให้ความขาวต่อผิวบางชนิด หากใช้อย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ ทา รับประทาน หรือแม้แต่การฉีด
ในทางการแพทย์ผิวพรรณที่ดีไม่ใช่ผิวที่ขาวเสมอไป แต่หมายถึงผิวที่มีความเนียนใส มีความกระชับ ยืดหยุ่นได้ดี และไม่มีริ้วรอยหรือจุดด่างดำ เราอาจจะเห็นได้จากวงการนางงามต่างประเทศ ที่สาวผิวสีก็ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าสาวผิวขาว การดูแลผิวให้มีสุขภาพดีนั้น ก็มีหลักการเช่นเดียวกันกับการดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม เนื่องจากสุขภาพกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ย่อมแสดงออกมาทางผิวพรรณได้เช่นกัน ผมขอสรุปเป็นหัวข้อสำคัญๆ ดังนี้นะครับ
- หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งเสีย เช่น แดดจัดๆ งดเหล้า บุหรี่ สารเสพติด และควรดื่มชากาแฟในปริมาณน้อยๆ (ไม่ควรเกินวันละ 1-2 แก้ว)
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักผลไม้ เนื่องจากวิตามินซี วิตามินอี และแร่ธาตุต่างๆ ในอาหารเหล่านั้น จะช่วยปกป้องผิวจากสารอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- ไม่อดอาหาร และควรดื่มน้ำมากๆ วันละ 6-8 แก้ว เพื่อให้ผิวพรรณชุ่มชื้นและเต่งตึง มีน้ำมีนวล
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะการที่กระตุ้นให้เหงื่อออกจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตที่ผิวหนัง เพิ่มการผลิตน้ำมันตามธรรมชาติที่ผิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ไม่แห้งกร้าน
- นอนหลับให้เพียงพอ ร่างกายจะสร้างโกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโต ออกมาเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และการพักผ่อนที่พอดีจะช่วยลดปัญหาริ้วรอยหมองคล้ำรอบดวงตา
- ใช้ครีมบำรุงผิวหรือโลชั่นบำรุงผิว ปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเป็นจำนวนมาก ที่ผู้ผลิตได้อ้างถึงสรรพคุณผิวขาว โดยอาจมีสารอันตรายเจือปนเพื่อให้เห็นผลเร็วเพียงใช้เวลาไม่นาน เช่น สารสเตียรอยด์ สารปรอท สารไฮโดรควิโนน ซึ่งสารเหล่านี้เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะเกิดผลเสียตามมา บางรายก็รักษาไม่ได้ ทั้งที่จริงๆ แล้วสารบำรุงผิวที่ปลอดภัยและได้ผลดีก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก หากเรารู้จักพิจารณาเลือกใช้
สารที่ได้รับการยอมรับโดยมาตรฐานว่ามีประสิทธิภาพ และมีการใช้ในเวชสำอางทั่วโลก ได้แก่
- Snail Secretion Filtrate : สารสกัดจากเมือกหอยทากอุดมไปด้วยสารกลัยโคอะมิโนกลัยแคนและกรดกลัยโคลิค (Glycosaminoglycan&glycolic acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการซ่อมบำรุงเซลล์ผิว อันเห็นได้จากการที่บาดแผลที่มือของคนงานในฟาร์มหอยทากสามารถหายได้อย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับเมือกของหอยทากนี้เป็นประจำ ทั้งนี้ยังช่วยลดการเกิดรอยแผลเป็น เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์ผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ
- Caviar Amino Complex : สารสกัดจากไข่ปลาคาเวียร์อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในชั้นเซลล์ผิว เพิ่มความกระชับ
- Allium Cepa Bulb Extract : สารสกัดจากหัวหอม อุดมไปด้วยสารซัลเฟอร์ (Sulfur) ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการเกิดสิว
- Jojoba Oil : โจโจ้บาออยล์ เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับชั้นผิว และช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง
- Alpha arbutin : อัลฟ่า อาร์บูติน ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase enzyme) ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน
- Dermawhite (Waltheria Indica Leaf Extract) : สารเดอร์มาไวท์สกัดได้จากใบวอลเธอร์เรีย อินดิก้า พืชแอฟฟริกัน ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเมลานิน จึงลดปัญหารอยดำ ฝ้า กระ ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น
- Sulforawhite (Lepidium Sativum Sprout Extract) : สารซัลฟอร่าไวท์สกัดได้จากต้นอ่อนของ เลปิเดี่ยม ซาทิวุ่ม ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งสารอนุมูลอิสระ และลดการทำงานของ อัลฟ่า เมลาโนไซต์ สติมูเลติ้ง ฮอร์โมน (alpha-Melanocyte stimulating hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสี
- Skin Tightener ST™ (Macrocystis Pyrifera Extract) : สารสกัดจากสาหร่ายแมคโครซิสติส ไพริเฟอร่า ซึ่งอุดมไปด้วยสารโพลี่แมนนูโรเนท (polymannuronate) ซึ่งช่วยลดปัญหาผิวแห้ง
- Hydrolyzed Wheat Protein : โปรตีนจากข้าวสาลีซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะโนจำเป็น (essential amino acids) ช่วยปรับผิวให้กระชับ และยืดหยุ่นมากขึ้น
- Sodium Hyaluronate : สารไฮยาลูโรแนน สามารถจับกับโมเลกุลของน้ำได้มากถึง 1000 เท่าของน้ำหนักโมเลกุลของมันเอง จึงทำให้มันเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูง
- Retinol Palmitate : เรตินอล ปาลมิเทท อนุพันธ์ของวิตามินเอ ช่วยในการลดการอักเสบของผิว และลดรอยด่างดำ
นอกจากวิธีข้างต้น ยังมีวิทยาการทางการแพทย์อีกมากมายที่ช่วยให้มีผิวขาวใสอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการทำทรีตเมนต์ด้วยเลเซอร์ การฉีดวิตามินบำรุงผิว การทำดีท็อกซ์ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานรองรับ จะสวยทั้งทีแต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยกันไว้เสมอนะครับ
ขอบคุณบทความโดย : นายแพทย์วุฒิวัธ อนุพรรณสว่าง
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลกรรมทั่วไป รพ.สมิติเวช ธนบุรี
