1.ออกกำลังกาย แน่นอนการออกกำลังกาย ขยับแข้งขา ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแอโรบิก จอกกิ้ง โยคะ ฯลฯ ก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้เหงื่อและของเสียที่สะสมอยู่ในร่างออกมาทางผิวหนัง ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานหัวใจ ทำให้เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ได้ทั้งหน้าสวยใส แถมร่างกายแข็งแรง ดีแบบสองต่อเลยนะเนี่ย
2.ดื่มน้ำเปล่าเพิ่มมากขึ้น จากที่เคยดื่มน้ำเปล่าบ้าง น้ำอัดลม น้ำหวาน รวมถึงชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สลับกันไปในระหว่างวัน ลองเปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าเพิ่มมากขึ้น ไม่ต่ำกว่าวันละ 1 ลิตร ที่สำคัญยังควรดื่มน้ำเปล่าหลังจากที่ตื่นนอนทันที 1 แก้ว เนื่องจากช่วงเช้าร่างกายขาดน้ำเลย เลยจำเป็นจะต้องเติมน้ำให้ผิวพรรณดูอิ่มเอิบ หน้าสวยสดใส
3.รับประทานผักผลไม้สดที่หลากหลาย โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ไฟเบอร์ อย่าง แอปเปิล ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ฟักทอง บรอกโคลี แครอท เป็นต้น อาจรับประทานสด ๆ ด้วยการนำมาปั่นเป็นน้ำผลไม้ดื่มทุกเช้าคู่กับอาหาร หรือรับประทานเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้วิตามินและสารอาหารสำคัญตรงเข้าไปบำรุงผิวให้สวยเต่งตึงสดใสเปล่งปลั่งขึ้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบการขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย
4.นอนหลับให้เพียงพอ นับเป็นวิธีที่ง่าย ๆ ที่ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสไม่เหี่ยวไม่โทรม ใครที่รู้ตัวว่านอนน้อย นอนดึก ปาร์ตี้เสาร์อาทิตย์ไม่มีพัก ลองหันมาเข้านอนเร็วก่อนสี่ทุ่มเป็นประจำ จะช่วยทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นปกติ หน้าใสขึ้นได้แน่นอน
5.ทำทรีทเม้นท์หรือเลเซอร์ผิวหน้า เพื่อเป็นปรับสภาพผิวหน้าให้ดูสวยผ่องใสถึงขีดสุด และช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำ รวมถึงเซลล์ผิวเก่าที่อยู่ด้านนอกให้ค่อย ๆ หลุดออกไป สาว ๆ อาจลองเลือกทำสวยด้วยกลุ่มเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของผิว รวมถึงนำวิตามินลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ได้แก่ IPL ไอออนโต กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีหรือกรดผลไม้ เพื่อให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างใส
6.พอกหน้า ใน 1 สัปดาห์ คุณควรหาเวลาวันว่างสัก 3-4 วัน เพื่อทำการปรนนิบัติผิวให้สะอาดใสหมดจด ด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพื่อเป็นการเปิดรูขุมขุน จากนั้นจึงนำโยเกิร์ต ไข่ขาว หรือน้ำผึ้งพอกหน้าทาทิ้งไว้ให้บนผิวหน้า 15-20 นาที แล้วล้างออก วิตามินและสารอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในมาส์กธรรมชาติเหล่านี้จะซึมซับเข้าไปบำรุงผิวหน้าให้เปล่งปลั่งสดใสขึ้นได้
ขอบคุณที่มา kapook.com