9 นิสัย ที่ทำให้อ้วน

beauty1.52

จากผลสำรวจ นิสัยเหล่านี้เป็นนิสัยที่ก่อให้เกิดพฤติกรรมการรับประทานอาหารมากเกินความจะเป็น เมื่อเรารับประทานเกินกว่าที่ร่างกายใช้ นั่นหมายถึงร่างกายจะเก็บพลังงานที่เหลือใช้ในรูปแบบของไขมันซึ่งถ้าหากเราใช่ไขมันที่เก็บสำรองไว้ไม่หมด จะทำให้เรามีปริมาณไขมันมากขึ้น และทำให้อ้วนขึ้น สำหรับคนที่มีนิสัยเหล่านี้และมีน้ำหนักตัวเกินและกำลังเริ่มหันมาลดน้ำหนัก แต่ยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน แนะนำให้ปรับแก้นิสัยเหล่านี้ดูก่อน แล้วจึงหาเทคนิคอื่นๆมาเสริม จะทำให้การลดน้ำหนักจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและได้ปรับแก้พฤตกรรมต้นเหตุที่ทำให้อ้วนด้วย

1. กินข้าวเร็ว

การกินข้าวเร็วมาก แทบจะไม่เสียเวลาเคี้ยว หรือเคี้ยวไม่ละเอียด จะทำให้ไม่รู้สึกอิ่ม เสี่ยงที่จะทานมากเกินกว่าปริมาณที่ต้องการเพราะการกินข้าวเร็วกระเพาะยังไม่ทันรับรู้ถึงความรู้สึกอิ่ม จึงคิดว่ายังรับอาหารได้อีก ดังนั้นการทานแบบค่อยๆกิน จะทำให้อิ่มเร็วขึ้น และได้ปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับความหิว แถมยังได้รับรู้ถึงรสชาติอาหารได้ดีกว่าอีกด้วย

2. ดูโทรทัศน์ไป กินไป

นี้ก็เป็นสาเหตุใหญ่อีกสาเหตุนึงที่ทำให้อ้วน เวลาดูทีวี หรือดูหนัง ถ้าจะให้สนุกต้อง โค๊กกับมันฝรั่งทอด หรือ ป๊อบคอร์น 1 ถังใหญ่ จึงจะได้ความสนุกสนานเพียบพร้อม เเต่คุณทราบหรือไม่ เจ้า 2 ตัวนี้ ต่างก็แคลอรี่สูงทั้งคู่เลย ปาเข้าไปไม่ต่ำกว่า 500-700 kcal นี้เฉพาะอาหารว่างนะคะ แล้วที่กินเป็นอาหารหลักอีกหล่ะ ของพวกนี้ เรียกว่า กินแล้วเบรคแตก กินแล้วไม่ค่อยคำนึงเพราะกินไปเรื่อยๆมาเรียงๆ หมด ก็ไปเอามากินอีก ลองเปลี่ยนใหม่ ได้ไหมว่า ดูทีวีดูหนังไป กินผลไม้ไป เป็นการเชียร์ดูทีวีเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริงเครื่องดื่มก็เปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าจะดีที่สุด

3. เสียดายของ

หลายคนคิดว่า ก็ได้รับการสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ว่ากินข้าวจะต้องกินให้หมดจานอย่าเหลือทิ้งไว้ สงสารชาวนาที่ปลูกข้าว เต็มไปด้วยความยากลำบากกว่าจะได้ข้าวมาเม็ดหนึ่งพอเรากิน แม้จะอิ่มแล้วแต่ก็ต้องกินให้หมด ข้อนี้ไม่เถียงว่าควรทำ แต่สิ่งที่ควรทำมากกว่าคือการกะปริมาณอาหารให้เหมาะสม เมื่อเป็นคนขี้เสียดาย ก็ต้องตัดใจไม่ซื้อ หรือซื้อแต่พอกิน จะได้ทานไม่มากไป แถมประหยัดเงินอีกต่างหาก

4. เครียดแล้วกิน

อาการนี้เป็นมากในหลายคน บางคนทำไปโดยไม่รู้ตัว การระบายความเครียดด้วยการกินนั้นอาจส่งผลร้ายแรงถึงขนาดเป็นโรคทางจิต และทำให้เสพติดการบำบัดความเครียดด้วยการกิน ดังเช่นตัวอย่างในชาวต่างชาติไซส์ยักษ์ในต่างประเทศหลายคน ดังนั้นเมื่อเกิดความเครียดให้ลองหากิจกรรมอื่นๆทำ ออกไปเดินในสวน ออกกำลังกาย หรือพูดคุยกับคนรอบข้าง หรือถ้าหาอยากทานมากจริงๆให้เลือกทานเป็นผัก หรือผลไม้แทนการทานอาหารที่มีพลังงานสูงๆจะดีกว่า

5. ให้รางวัลโดยการกิน

ถือว่าเป็นพฤติกรรม และเป็นเร่ืองปรกติในสังคมปัจจุบันที่เวลาเราดีใจ หรือทำอะไรประสบความสำเร็จ ต้องมีการนัดฉลองกัน กินฉลองสอบได้ กินฉลองได้ลูกค้าใหม่ กินฉลองวันเกิด กินฉลองมันได้ทุกวัน ลองเปลี่ยนวิธีการให้รางวัลเป็นแบบของขวัญ หรือไปเที่ยว หรืออะไรก็ได้ ที่ไม่ต้องมาโยงกับการกิน เพราะการฉลองเหล่านี้จะเต็มไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มจำนวนมาก และตัวเราเองก็มักจะคิดว่า นานๆทีไม่เป็นไร ทั้งที่เดือนทั้งเดือนอาจจะมีงานฉลองแบบเดียวกันที่คุณปฏิเสธไม่ได้อีกหลายงาน

6. กินอาหารคาว ต้องตามด้วยของหวาน

เชื่อว่านิสัยนี้กำลังกระจายในคนส่วนใหญ่ที่เมื่อทานอาหารคาวเสร็จจะต้องมีของหวานมาล้างปาก เพื่อให้ครบสูตรความฟิน หรือการไปทานตามร้านเค้ก ขนมหวานอินเทรนทั้งหลาย นานๆไปทีไม่เป็นไร หรือถ้าคุณดูแลสุขภาพร่างกายดี ก็ไม่ว่า เเต่ถ้ากินแบบนี้มาอย่างต่อเนื่องหรือเป็นนิสัยการกินไปแล้วหล่ะก็ ลองเปลี่ยนของหวานเป็นผลไม้ดีกว่า แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงโม หรือผลไม้ที่หวานน้อยๆกน่าจะเป็นทางแก้นิสัยนี้ได้

7. ต้องเอาให้คุ้ม

ในกระแสบุฟเฟ่สุดคุ้ม ที่ตอนนี้ราคาถูกกว่าร้านอาหารหลายร้าน แถมกินอิ่มกว่าคุ้มกว่า ก็เข้าสายเลือดคนไทยหลายคนไปแล้ว เรียกได้ว่าทานกันบ่อยทานกันคุ้มทานกันทุกสัปดาห์ แต่การทานบุฟเฟ่แต่ละครั้งคุณอาจได้รับพลังงานหลายพัน ต่อมท้อเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าคุณทานเอาคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย อิ่มพุงกาง อืดไปหลายชั่วโมง จงจำไว้ว่าสิ่งที่เหลือจากที่ร่างกายใช้ มันคือไขมัน นอกจากนี้การทานอาหารมากจนเกินไปจะทำให้กระเพาะและระบบย่อยอาหารทำงานหนักจนกินไป ทางที่ดี กินบุฟเฟ่ครั้งต่อไป ทานเเค่พออิ่มและเลือกอาหารที่จะทาน อย่าไปเสียดายเงิน เพราะเงินที่เอามารักษาเมื่อคุณป่วยอาจมากกว่าราคาค่าบุฟเฟ่เสียอีก

8. ยอมแพ้อะไรง่ายๆ

หลายครั้งที่เข้าโปรแกรมลดน้ำหนัก พอมันไม่ค่อยลด ก็ท้อใจ หันกลับไปกินมากเหมือนเดิมแถมยังยอมรับอย่างน่าสลดว่า ความอ้วนยังไงก็ต้องอยู่ติดตัวคู่กับเราไปทั้งชีวิตแน่ๆ อย่าค่ะ อย่าไปเชื่อยังงั้นสิ สู้ๆเข้าไป สู้เข้าไป มันลดได้สิ ยอมแพ้วันนี้ก็ต้องแพ้ มันไปตลอดกาล แต่หากสู้ เราก็ยังมีหวังเอาชนะได้ค่ะ

9. ออกกำลังกายแล้วกินเยอะขึ้น

นิสัยแบบนี้ ทำให้การลดน้ำหนักพังไปหลายรายแล้วค่ะ ออกกำลังกายหนัก และชะล่าใจกลับมาทานหนัก เพราะคิดว่าไม่เป็นไรเอาออกได้ เป็นความคิดที่ผิดมาก ถ้าหากต้องการลดน้ำนัก คุณจะต้องดูแลเรื่องอาหารการกินให้เหมาะสม เพื่อให้ได้พลังงานที่เหมาะสม และทำให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ถ้าออกกำลังกายแล้วทานพลังงานที่รับรับอาจมาก หรือเท่ากับปริมาณการออกกำลังกาย ทำให้ดูเหมือนไม่มีความก้าวหน้า และ ทำให้ท้อใจและเลิกไปในที่สุด

Credit :women.sanook.com, www.lovefitt.com

เรื่องน่าสนใจ