ไม่มีใคร ในวงการสุขภาพที่ไม่รู้จัก “โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” หรือ “30 บาทรักษาทุกโรค” ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า “โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” นี่แหละ …..ที่ทำให้คนไทยไม่ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลแพงๆ เพราะแม้จะเป็นโรคร้ายแรง ถึงขั้นมะเร็ง เบาหวาน HIV หรือ โรคเล็กน้อย ก็ไม่ต้องเสียเงิน ทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
หลายๆ ท่านคงคิดว่าทำไมจึงนำเอาเรื่อง “โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” มาเขียนเป็นบทความในช่วงนี้ เพราะผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม ยังคงจำได้ดี วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551 ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ผู้บุกเบิก และคิดค้น “โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งตอนนั้น หมอสงวนอายุ 55 ปีเอง
ตอนนั้นอยู่ในช่วงเริ่มต้นของ “โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอมได้ประจำ กระทรวงสาธารณสุข สมัยหมอสงวนยังนั่งเป็นรองปลัดกระทรวง ก่อนจะแยกตัวออกไปเป็นสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. ) โดยมีหมอสงวน นั่งในตำแหน่งเลขาธิการคนแรก ซึ่งการทำงานในช่วงเริ่มแรกไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะด้วยงบประมาณจำกัด และ ผู้ป่วยจำนวนมาก
อีกทั้งตอนนั้น ผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแยกตัวไปเป็นอิสระของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช. ) เพราะเดิมงบประมาณก้อนนี้จะอยู่ในอำนาจของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงส่งผลให้มีข่าวไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก ระหว่าง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
แต่ด้วยผลของการทำงานที่ประชาชนได้ประโยชน์มากมาย “โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” จึงเดินหน้าต่อไป ซึ่งหลายๆ ครั้ง ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม ได้เดินทางไปดูงานกับหมอสงวน ตามต่างจังหวัด บนภูเขา บนดอย หรือตามแนวชายแดน ถิ่นทุรกันดาร ซึ่งทำให้รู้ว่าหมอสงวนตั้งใจและฝ่าฟันกับอุปสรรคมากมาย
กระทั่ง กลุ่มแพทย์ชนบทและผู้เคยร่วมงานกับ หมอสงวน เช่น นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบทรุ่นที่ 22 และ นพ.โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยสังคมและสุขภาพ (สวสส.) ยกย่อง หมอสงวนว่าเป็น “รัฐบุรุษแห่งวงการสาธารณสุขไทย”
จากวันนั้น วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551 จนถึง 18 มกราคม พ.ศ. 2560 เป็นเวลา 9 ปีเต็มๆ ที่หมอสงวนจากไป
แต่ท่านได้ฝาก “โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ให้กับคนไทยทั้งประเทศที่เวลาเจ็บป่วยไปโรงพยาบาลไม่ต้องเสียเงินสักบาทเดียว แถมยังมีโครงการสุขภาพดีๆ ออกมาอีกมากมาย
ภาพจาก สปสช.