ชาวบ้านห้วยมงคล ใน จ.น่าน รวมตัวกันกว่า 100 คน บุกเข้าปิดล้อมโรงพัก ประท้วงตำรวจเวียงสา หลังจับกุมผู้ใหญ่บ้านพร้อมข้อหารับสินบน ชี้เจ้าหน้าที่ไม่เป็นธรรม เลือกฝ่ายปฏิบัติ และฟังความข้างเดียว…
เมื่อวันที่ 25 พ.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านห้วยมงคล หมู่ 2 ต.แม่สาคร อ.เวียงสา จ.น่าน กว่า 100 คน ได้รวมตัวกัน ปิดล้อมสถานีตำรวจภูธรเวียงสา เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จับกุม นายอำนวย วุฒิยา ผู้ใหญ่บ้าน โดยอ้างว่านายทองสุข ลือคำจันทร์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า ถูกนายอำนวย กรรโชกทรัพย์ เรียกรับเงิน 4,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ควบคุมตัว พร้อมของกลางเลื่อยโซ่ยนต์ ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี หลังนายอำนวยและคณะกรรมการหมู่บ้านเข้าจับกุมขณะกำลังตัดไม้ในป่า โดยชาวบ้านที่ร่วมชุมนุมต่างตะโกน ต่อว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าไม่เป็นธรรม เข้าข้างคนผิด ฟังความข้างเดียว
ด้าน นายอำนวย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.30 น. ตนได้เข้าจับกุมนายทองสุข ขณะกำลังใช้เลื่อยโซ่ยนต์ ตัดไม้ในเขตป่าชุมชนซึ่งชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์รักษา หากใครลักลอบตัดจะต้องถูกปรับเป็นเงิน 5,000 บาท ซึ่งเมื่อพบว่านายทองสุขทำผิดตนก็ต้องดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามอัตราที่ได้กำหนดไว้ แต่นายทองสุขได้ต่อรองขอลดค่าปรับลงเหลือ 4,000 บาท ซึ่งทางคณะกรรมการหมู่บ้านก็ยินยอมและนัดจ่ายกันโดยเงินค่าปรับที่ได้ก็จะนำเข้ากองทุนหมู่บ้านเพื่อนำไปใช้ในการรักษาผืนป่าชุมชน
แต่ปรากฏว่าต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำสำเนาเงินเข้าจับกุมตน ในข้อกล่าวหาว่าเรียกรับสินบน โดยไม่มีการถามไถ่เรื่องราว ทั้งนี้ สถานการณ์ได้ลุกลามบานปลายนานกว่า 3 ชั่วโมง จน พ.ท.วัฒนา จันทร์ไพจิตน์ หัวหน้าการข่าวกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดน่าน และ พ.ต.ท.อุทัย วงค์คำแสน รอง ผกก.สส.ภ.จ.น่าน ต้องเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย จนมีการเลิกจับกุมผู้ใหญ่บ้าน และยกเลิกเปรียบเทียบปรับเงิน 4,000 บาท จากนายทองสุข ตามมติของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเพียงกฎของชุมชนแต่ไม่ใช่ค่าปรับตามกฎหมาย โดยจะให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเลื่อยโซ่ยนต์ว่า ได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งพื้นที่การตัดไม้ว่าอยู่ในเขตป่าสงวนหรือเป็นต้นไม้หวงห้ามหรือไม่ ซึ่งหากพบกระทำผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้เป็นที่พอใจของชาวบ้านจึงแยกย้ายกันกลับ