ด้านมืดศัลยกรรม หมอกระเป๋าภัยร้ายอันตรายถึงชีวิต
เหรียญมีสองด้านเสมอ วงการศัลยกรรมก็เช่นเดียวกัน ด้านมืดของศัลยกรรม หรือจุดดำอีกจุดก็คือหมอกระเป๋า หลายคนคงคุ้นเคย แต่แท้จริงแล้วคนเหล่านี้อาจจะไม่ใช่ “หมอ” จริงๆ ซึ่งบรรดาหมอกระเป๋าเหล่านี้จะหอบหิ้วกระเป๋าที่บรรจุความซวย ส่งให้คุณถึงบ้าน บางครั้งอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตก็มีให้เห็นมาแล้ว แต่ภัยร้ายเหล่านี้ก็ยังไม่เคยหมดไปจากวงการศัลยกรรม
เว็บไซต์เดลี่เมลตีแผ่ปัญหา “หมอกระเป๋า” หรือเรียกอย่างบ้านเขาว่า “ตลาดมืดของวงการศัลยกรรม” (black market) ว่ากำลังเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงหนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการศัลยกรรม “เสริมบั้นท้าย” ที่นับวันยิ่งได้รับความนิยม สาว ๆ หลายคนอยากมีบั้นท้ายดินระเบิดแบบเจโล บียอนเซ่ หรือไม่ก็คิม คาร์ดาเชียน จะได้ใส่ยีนส์แล้วมีทรวดทรงสวย ใส่บิกินี่ได้อย่างมั่นใจบ้าง
ราคา การเสริมบั้นท้ายอย่างถูกต้องตามกฏหมายที่โรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับ อนุญาตถูกต้องก็แพงลิบ เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 4,670 ดอลลาร์ (ประมาณ 140,100 บาท) เป็นราคาที่เกินจะอาจเอื้อมสำหรับผู้หญิงหลาย ๆ คน ทางเลือกลำดับถัดมาจึงเด่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ หมอกระเป๋ากับราคาค่าบริการเพียง 2,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 60,000 บาท) ถูกกว่ากันเกินครึ่งแบบนี้ ผู้หญิงอยากก้นสะบึมจึงโดดเข้าใส่โดยไม่ยั้งคิด
ดอกเตอร์ จอห์น มาร์ติน ศัลยแพทย์ตกแต่งจากฟลอริดา เผยว่าวัสดุที่ฉีดเข้าไปส่วนใหญ่ล้วนไม่ใช่ซิลิโคนเกรดสำหรับการทำศัลยกรรม ผู้ป่วยหลายรายต้องโร่เข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาผลข้างเคียงที่ตามมาจากการ เสริมบั้นท้ายด้วยซิลิโคนเถื่อน หลายรายได้พว่าว่ามันเป็นซิลิโคนยาแนวธรรมดา ๆ ที่หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างด้วยซ้ำ
“ใน วงการศัลยกรรมเอง ไม่มีศัลยแพทย์รายไหนเสนอการฉีดซิลิโคนที่บั้นทายแน่นอน จะมีก็แค่การปลูกถ่ายบั้นท้ายจากไขมันส่วนอื่นหรือการยกกระชับเท่านั้น เพราะการฉีดนั้นจะต้องใช้ซิลิโคนปริมาณมาก การควบคุมย่อมทำได้ยาก โอกาสที่ฉีดไปแล้วจะเสียรูปมีสูง หรือซิลิโคนอาจจะไหลลงขาทำให้เนื้อเน่าตาย สุดท้ายก็ต้องตัดทิ้ง และกลายเป็นคนพิการ ยิ่งเป็นซิลิโคนเถื่อน โอกาสที่จะติดเชื้อและเป็นเหตุของการอุดตันของเส้นเลือดก็ยิ่งมีมากขึ้นหลาย สิบเท่า และหากฉีดพลาดเข็มไปสะกิดโดนเส้นเลือด หากซิลิโคนเข้าสู่กระแสเลือด สูบฉีดไปยังปอด ก็ทำให้การทำงานของปอดล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด”
กรณีของความสูญเสียแก่ร่างกายอย่างเคสของ เอพริล มิเชล บราวน์ ที่เสริมก้นด้วยซิลิโคนเถื่อน จนท้ายที่สุดลงเอยด้วยการต้องตัดทั้งมือและเท้าทั้งหมดทิ้งไปเพื่อรักษา ชีวิตตัวเอง ส่วนกรณีที่สูญเสียถึงชีวิตก็คือ คาริมา กอร์ดอน หญิงจากรัฐจอร์เจีย ที่เสียชีวิตในปี 2012 ด้วยอาการเลือดจับตัวเป็นลิ่มในปอด เหตุเพราะซิลิโคนเข้าสู่กระแสเลือด หลังจากฉีดเสริมบั้นท้ายกับหมอกระเป๋าไปเพียงไม่กี่วัน เจ้าหน้าที่ผู้ชันสูตรศพเธอยังระบุให้เอกสารให้การแก่ศาลว่า “ของเหลวคล้ายซิลินโคนพุ่งปรี๊ดออกมาจนเลอะพื้นขณะทำการผ่าชันสูตรศพ”
อุ ธาหรณ์เหล่านี้เป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างจากเรื่องราวความสูญเสียที่เกิดขึ้น จริง หวังว่ามันน่าจะช่วยสะกิดเตือนใจหลาย ๆ คนที่คิดจะฝากความสวยไว้กับหมอกระเป๋าได้ดี อย่าเห็นแก่ราคาที่ย่อมเยากับความอยากที่จะ “สวยชาตินี้” จนกลายเป็น “เร่งเวลาตาย” ของตัวเองให้มาถึงไวขึ้นกันเลยนะคะ
วานิตี้ วันเดอร์ หญิงรายหนึ่งที่อัพไซส์บั้นท้ายตัวเองด้วยหมอกระเป๋า ตัวเธอเองยังไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ แต่ก็ตัดสินใจเขียนหนังสือเตือนถึงความเสี่ยงจากการทำสวยด้วยหมอเถื่อน
เอพริล มิเชล บราวน์ ผู้สูญเสียทั้งมือและเท้าทั้ง 4 ไปจากพิษซิลิโคนเถื่อน
หนึ่งในผู้ป่วยที่มารักษากับดอกเตอร์มาติน หลังถูกพิษซิโคนเถื่อนฉีดเสริมที่แก้ม ไหลผิดรูปมองเห็นเป็นก้อนบนใบหน้า
ใครที่คิดจะทำศัลยกรรมก็ต้องมีเงินมากพอที่จะจ่ายให้กับมันได้ แน่นอนว่าศัลยกรมหลายประเภทราคาค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่แลกมาเพื่อให้ได้ซึ่งความสะอาดปลอดเชื้อของอุปกรณ์ วัสดุที่ใช้ในการเหลา-ดัด-ตัด-เสริม ที่มีคุณภาพ ความปลอดเชื้อเหมาะสมของสถานที่ และค่าจิปาถะอื่น ๆ รวมไปถึงหนึ่งประการที่สำคัญมากก็คือ ความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ลงมือ เรียกว่าเป็นเงินที่จ่ายเพื่อแลกกับความเสี่ยงหรือผลร้ายที่อาจตามมาหลังทำ ศัลยกรรมนั่นเอง แม้จะไม่สามารถการันตีได้ว่าจะลดความเสี่ยงทั้งปวงได้ 100% แต่ก็พอจะเบาใจไปได้เปลาะหนึ่งว่ายังไงก็อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มี ความเชี่ยวชาญ
เครดิต : kanyiokeke.com