การร้อยไหมดึงหน้าให้เต่งตึง หรือดึงให้หน้า เป็นวีเชฟ เป็นที่ฮือฮามาเมื่อสัก 4-5ปีมานี้ โดย การแพทย์เกาหลีได้ประชาสัมพันธ์เทคนิคร้อยไหมดึงหน้าสไตล์เกาหลี โดยมีการชักชวนแพทย์ไทยและแถวอาเซียนไปเรียนรู้การร้อยไหมสไตล์เกาหลีกันอย่างมาก แม้ทุกวันนี้จะซาลงบ้าง
มีการนำไหมสไตล์เกาหลีไปโปรโมทที่สหรัฐอเมริก และ วงการแพทย์อเมริกันก็ไม่ได้เออออห่อหมกไปด้วย แต่มีรายงาน ของ วารสาร Pubmed.org ในปี 2009 เอางานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Arch Facial Plast Surg. 2009 May-Jun;11(3):178-83. doi: 10.1001/archfacial.2009.10.
เรื่อง Thread-lift for facial rejuvenation: assessment of long-term results.โดย Abraham RF1, DeFatta RJ, Williams EF 3rd.
การศึกษาของ Abraham และสหาย พบว่า การใช้ไหมไม่สามารถทำให้หน้าตึงได้นาน ที่ตึงหลังทำอาจเป็นผลจากการบวมและการอักเสบ มันจึงไม่ตึงนาน ไหมที่เขาศึกษาเป็นไหมแบบเรียบ จากนั้นมาเกาหลีก็ได้พัฒนาไหมเงี่ยงตามแบบของยุโรปและอเมริกาคือไหมของ Salamanidze และ มีการทำไหมยาวของ Woffle ไหม Waptop ฯลฯมากมาย แต่ก็มีปัญหาเรื่องเวลาในการตึง ที่เคยบอกไว้ว่าตึงนาน 1-3 ปี ก็ไม่ค่อยจะตึงแล้ว
ส่วนการผ่าตัดดึงหน้าค่อนข้างสาหัส แผลยาว ต้องพักหลังผ่าตัดเป็นอาทิตย์ๆ จึงได้มีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้าเพื่อที่จะมีแผลสั้นที่สุดและ พักฟื้นหลังผ่าตัดน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำ Mini Face Lift ,QuickLift, Tulip Lift, LiftStyle Lift ฯลฯ มันก็ยังมีการกรีดผิวหนัง มีรอยแผลเป็น มีการผ่าตัดอยู่ดี ทำให้ คนที่กลัวการผ่าตัดไม่อยากทำ และมีระยะพักฟื้นเหมือนกัน
ในปี 1970 แพทย์ชาวฝรั่งเศส Dr. Guillemain เป็นผู้เริ่มทำการร้อยไหมผูกยึดเป็นคนแรก และเรียกว่า Curl Lift ซึ่งเป็นต้นแบบของการร้อยไหมแบบผูกยึด ซึ่งได้ผลในการดึงหน้าให้ตึง
การร้อยไหมแบบผูกยึด หลักๆมีอยู่ 5 แบบ คือ แบบของ Guilleman,Sulamanidze, Serdev , Ruff และล่าสุดคือแบบ ของ เรโนเวียคลินิก โดยน.พ. สถาพร จินารัตน์ ที่ออกแบบและให้บริษัท Hakko ผู้ผลิต Needles, Cannula และ อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง(disposable) ของประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตให้
1. แบบของ Guilleman : The Guilleman technique
เป็นเทคนิคพื้นฐานที่เรียกขานในนาม “Curl Lift” ใช้หลักการคือ กรีดผิวหนังยาวประมาณ 1 ซ.ม. แล้วใช้เข็มโค้งใหญ่ตักเนื้อเยื้อใต้ผิวหนัง ที่หย่อนยานแล้วผูกให้ตึงดังรูป ใช้เส้นไหมที่ใช้กันทั่วๆไป เหมาะกับคนอายุน้อย ถึงกลางคน ที่ผิวหย่อนคล้อยบ้าง แต่ไม่มีหนังส่วนเกินมากเกินไป หรือใช้สำหรับตบแต่งรายที่เคยผ่าตัดดึงหน้ามาแล้ว และ เกิดผิวหนังหย่อนคล้อยอีก
2. แบบ The Salamanidze Technique
แพทย์ชาวรัสมีในปี 1990 ได้ประดิษฐ์เช็มและไหมเพื่อ ร้อยดึงหน้า ไหมพิเศษนี้ ใช้ยกหน้าหลายๆส่วนในคราวเดียวกัน โดยไม่ต้องผ่าตัด ไหมที่ใช้อาจจัดจำหน่ายในชื่อต่างกัน เชน APTOS Thread Lift, Contour Lift, Silk Lift, Feather Lift เป็นต้น วิธีนี้ต้องใช้ไหมและเข็มของเขาราคาแพงมาก
3. แบบ The Serdev Technique
เป็นเทคนิคที่แพทย์ชาวบัลเกเรีย Nikolay Serdev ใช้ semi-elastic threads ที่สลายตัวช้า แล้วใช้เข็มชนิดพิเศษของเขาที่ชื่อ Serdev’s Needle เพื่อที่จะยึดเนื้อเยื้อกับกระดูกหรือเอ็นที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวของร่างกาย(solid or fixed structure)ใช้ได้ดีเพื่อสร้างขอบให้ชัดขึ้นใน Ill-defined cheekbone และ ทำให้คางคมชัดขึ้น
เทคนิคนี้ช่วยในการสร้างปริมาณเนื้อ(Volume) และความยาว(Projection) โดยไม่ต้องใช้ซิลิโคน(Prostheses) กรณี Cheekbones, Chin, Breasts or Buttocks. ในบางราย เทคนิคของ Serdev นอกจากใช้ไหมแบบ อีลาสติกแบนด์ และ เข็มแบบ Serdev แล้ว เขาสามารถร้อยถึกได้ตั้งแต่เยื้อหุ่มกระดูก(Periosteum) จนถึงชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้สามารถร้อยอวัยวะที่หย่อนยานได้มากมาย
4. The Ruff Method
เทคนิคนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักในการทำ ผ่าตัดเสริมความงามยุคใหม่ เป็นวิธีที่ US FDA approved for rejuvenation of the face and neck โดยใช้ไหมเงี่ยงทางเดียว Unidirectional Barbed Threads.โดยใช้เข็มชนิดพิเศษและวิธีพิเศษในการร้อยไหม มีจุดยึดที่แท้จริง(true anchor point for the thread) ไหมเงี่ยงทางเดียวจะยึดติดกับเนื้อเยื้อได้ดี
เทคนิคนี้ใช้ดึงได้ทุกส่วน โดยเฉพาะ midface, neck eyebrow
5. Staporn Cannula
ไหมและ cannula ที่ใช้ร้อยไหม มีทั้งข้อดี และข้อเสีย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราคาที่แพง และต้องใช้ไหมจำเพาะของผู้ผลิต น.พ. สถาพร จินารัตน์ จึงได้พัฒนาเข็มร้อยไหมชนิดใหม่ที่ใช้ได้กับไหมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไหมของเก่าหลี ญี่ปุ่น จีน หรือ ไหมที่ใช้เย็บแผลทั่วๆไป ทั้งไหมเงี่ยง และ ไหมเรียบ สามารถร้อยได้ทุกอวัยวะของร่างกาย ใบหน้า หน้าอก ก้น ฯลฯ
ผู้ร้อยต้องมีทักษะในการร้อยไหม เข้าใจกายวิภาค และ สรีระวิทยาของการหย่อนยาน มีจินตนาการในเรื่องความงาม ก็จะสามารถใช้ Cannula นี้ร้อยไหมได้ตามใจชอบดุจศิลปินคนหนึ่ง
แรงบันดาลใจจาก Serdev’s Needle และ ประสบการณ์จากการร้อยไหมและการสอนร้อยไหม น.พ. สถาพร จินารัตน์ ได้พัฒนา เข็มร้อยไหมคล้ายๆของ Serdev โดยใช้ไหม ของ Ethicon ในการร้อย ผลที่ได้น่าพึงพอใจ ต่อมาได้ร่วมกับวิศวกรของบริษัท Hakko ผู้ผลิตเข็มและ Disposable ทางการแพทย์ของประเทศญี่ปุ่น พัฒนา Cannula สำหรับร้อยไหมที่เป็น Universal ใช้ได้กับไหมทุกประเภท และ ใช้ร้อยที่ต่างๆได้มากมาย Staporn Cannula
วิธีการร้อยไหมแบบ Staporn Cannula เป็นการร้อยแบบผูกยึด ซึ่งการร้อยไหมโดยปกติทั่วไปที่มีอยู่ในประเทศไทย หรือต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นการ ร้อยไหมทางเดียว แล้วคาไหมไว้ เพื่อให้มีการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ยึดให้ผิวหนังตึงตัว ส่วนใหญ่อยู่ไม่นานประมาณ 6เดือนถึง 1 ปี แต่การร้อยด้วย Staporn Cannula นี้สามารถร้อยแบบ Suture Suspension Lift คือ ร้อยไหมผูกยึดชั้นใต้ผิวหนัง กับชั้น SMAS(Superficial Musculoaponeurotic System) ซึงมี 5 ชั้นตามที่ Hofflin ได้นิยามไว้ แล้วผูกไว้ในตำแหน่งที่คงที่( Fix )เช่น True Ligamentsผังผืดที่ยึดกล้ามเนื้อติดกับกระดูก หรือเยื้อบุกระดูก(Periosteum) เป็นต้น
1. ทำง่าย หากได้รับการฝึกอบรมเพียงพอ
2. ไม่สิ้นเปลือง Staporn Cannula สามารถแช่น้ำยาฆ่าเชื้อสำหรับเครื่องมือผ่าตัด แล้วมาใหม่ได้
3. ใช้กับไหมได้ทุกประเภท ไม่ว่าไหมเรียบ ไหมเงี่ยง ไหมของเกาหลี ญี่ปุ่น ไหมเย็บแผลผ่าตัดทั่วไป
4. สามารถใช้ยกกระชับผิวหนัง ได้มากมาย เช่น ยกหน้าผาก คิ้ว หางตา แก้ม คอ หน้าอก ก้น เป็นต้น
5. ผิวตึงอยู่นาน 1-3 ปี
พบน้อย คล้ายๆกับการร้อยไหมทั่วไป แต่ น้อยกว่าเนื่องจากใช้ไหมน้อยกว่า ได้แก่ บวม ช้ำ เขียว อักเสบ หน้าไม่เท่ากัน
1. ดึงหน้าทีหย่อนคล้อยให้ตึง เป็นหนุ่มสาวขึ้น ช่วยชะลอไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้าก่อนเวลาอันควร
2. ร้อยยกคิ้ว แก้คิ้วตก หนังตาตก
3. ทำหน้าเรียว วีเชฟ
4. ยกกระชับหน้าอก
5. ยกกระชับก้น
6. กระชับหน้าท้องที่หย่อนยาน
7. ฯลฯ
ติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
น.พ. สถาพร จินารัตน์
Renovia-ABLS Training Center for
The American Board of Laser Surgery