หนุ่มที่ภูเก็ต ขี่รถมาจอดหน้าบ้านสาว ถือก้อนหินมาด้วยซัดตูมเข้าที่กระจกหน้ารถเก๋งก่อนจะหนีไป กล้องวงจรปิดหน้าบ้านผู้เสียหายจับภาพไว้ได้หมด คาดรักเขาแล้วเขาไม่รัก หรืออาจไม่รู้ อัดอั้นตันใจเลยมาระบายกับรถ…
วงจรปิดจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน
ร.ต.ท.สุภรณ์ เมืองไข่ พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก น.ส.มทิรา นันทิมารุจ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องสำอาง เมื่อเวลา 22.40 น. วันที่ 23 ก.ค. 58 ว่า ถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน ใช้ก้อนหินปากระจกรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กล 6008 ภูเก็ต ขณะจอดอยู่หน้าบ้านเลขที่ 183/13 หมู่ 8 ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับความเสียหายโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ จึงไปตรวจสอบร่วมกับชุดสืบสวน สภ.ถลาง
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่ที่หน้าบ้านพัก โดยมี น.ส.มทิรา ผู้เสียหายกับญาติยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ตรวจสอบที่กระจกหน้ารถ พบรอยแตกเป็นวงกว้างคล้ายถูกของแข็งขว้างใส่ แต่เนื่องจากกระจกรถติดฟิล์ม ทำให้กระจกไม่แตกหลุดออกมา ส่วนที่พื้นถนนใกล้รถพบก้อนหินขนาดฝ่ามือตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
กระจกรถยนต์ ได้รับความเสียหาย
จากนั้น ผู้เสียหายได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณหน้าบ้าน พบภาพคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีเทาหรือดำ หน้าอกมีสกรีนตัวอักษรภาษาอังกฤษสีขาว นุ่งกางเกงขาสามส่วน และรองเท้าแตะแบบคีบสีดำ
จอดรถจักรยานยนต์ยามาฮ่ามีโอ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ไว้ข้างรถเก๋งทางฝั่งคนขับ เดินถือก้อนหินมุ่งมาที่รถเก๋งและปาหินใส่กระจกหน้าอย่างแรง ก่อนขี่รถหลบหนีไป ซึ่งเห็นภาพรูปพรรณสัณฐานและใบหน้าของคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยขณะเกิดเหตุ น.ส.มทิรา นอนพักอยู่บนชั้น 3 ของบ้าน ได้ยินเสียงคล้ายของแตก จึงรีบออกมาดู และพบกระจกหน้ารถถูกปาจนแตก จึงแจ้งตำรวจพร้อมกลับเข้ามาตรวจดูกล้องวงจรปิด และพบภาพคนร้ายดังกล่าว
จากการสอบถาม น.ส.มทิรา อ้างว่า ภาพคนร้ายในกล้องวงจรปิด ตนไม่เคยรู้จักมาก่อน จึงไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่คนร้ายใช้ก้อนหินปากระจกรถของตน เกิดจากอะไรแน่ และที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า อาจเป็นเรื่องของชายหนุ่มหญิงสาว รักเขาแต่เขาไม่รัก โดยมีผู้ชายมาแอบชอบ น.ส.มทิรา แต่เจ้าตัวไม่เคยรู้มาก่อน หรือไม่ได้สนใจ ทำให้ฝ่ายชายไม่พอใจที่ถูกเมินเฉย จึงได้ก่อเหตุขึ้น หรือคนร้ายอาจถูกจ้างวานจากผู้อื่นให้มาก่อเหตุ เป็นการตักเตือน สั่งสอน หรือส่งสัญญาณบางอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามตัวชายในภาพมาสอบสวน เพื่อความกระจ่างในเรื่องนี้ต่อไป.
