ที่หมู่บ้านหวงลั่ว เมืองกุ้ยหลิน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน เป็นที่อยู่ของชนเผ่าเย้า ที่บรรดาผู้หญิงทั้งหลายจะไว้ผมยาวกันทุกคน และยาวในที่นี้ไม่ใช่ยาวธรรมดา แต่เป็นการไว้ผมยาวชนิดลากพื้นกันเลยทีเดียว
หมู่บ้านหวงลั่วนี้มีผู้คนอยู่ไม่กี่ร้อยคน ตั้งอยู่บนเทือกเขา ห่างไกลจากความเจริญ และไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันเท่าไหร่ กระทั่งเมื่อปี ค.ศ.2002 รัฐบาลจีนได้ริเริ่มโครงการปฏิรูปการท่องเที่ยวขึ้น ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจากตัวเลขของทางการจีนล่าสุดระบุว่า แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่หมู่บ้านหวงลั่วนี้มากถึง 80,000 คน
ความโดดเด่นของชนเผ่าเย้าในหมู่บ้านนี้นอกเหนือจากการแต่งกายตามแบบฉบับของชาวเย้า ที่มีการเย็บปักถักร้อยบนเนื้อผ้าที่สวมใส่แล้ว ยังมีจุดเด่นอยู่ที่ความยาวผมของผู้หญิงในหมู่บ้าน ที่จะไว้ผมกันยาวมากๆ อีกด้วย โดยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของหญิงผมยาวในหมู่บ้านนี้ มีผมที่ยาวกว่า 1.4 เมตร ขณะที่หญิงที่ผมยาวที่สุดในหมู่บ้านตอนนี้ มีความยาวของผมอยู่ที่ 2.2 เมตรทีเดียว
โดยผู้หญิงในหมู่บ้านหวงลั่วนี้จะตัดผมกันเพียงแค่ครั้งเดียว คือในช่วงที่อายุประมาณ 16-18 ปี หรือช่วงเวลาที่เด็กสาวพร้อมที่จะแต่งงานแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครบอกได้ว่าที่มาที่ไปของการตัดผมครั้งเดียวในชีวิตของผู้หญิงในหมู่บ้านนี้คืออะไร รู้แต่ว่า หลังจากตัดผมครั้งนั้นแล้ว ทุกคนก็จะไว้ผมยาวกันตลอดชีวิตแบบไม่ตัดอีกเลย
ส่วนผู้หญิงที่ไม่ได้แต่งงานนั้น ก็จะไม่สามารถโชว์ผมอันยาวของตัวเองในที่สาธารณะได้ จะต้องมัดผมของตัวเองเอาไว้เหนือศีรษะ
ผู้หญิงเผ่าเย้าที่หมู่บ้านแห่งนี้เชื่อว่า การไว้ผมยาวถือเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่มีสุขภาพดี มีโชคดี และอายุยืนอีกด้วย และเคล็ดลับของการดูแลเส้นผมคือ พวกเธอใช้น้ำซาวข้าวหรือน้ำข้าวสำหรับสระผม
นี่อาจจะเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงในหมู่บ้านนี้มีผมที่ดำขลับอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างไร ทุกอย่างก็ต้องร่วงโรยตามกาลเวลา พออายุประมาณ 80 ปีผมก็จะหงอกเหมือนกัน