เนื้อหาโดย : โดดเด่นดอทคอม
ศัลยกรรมทำพิษ! 2 สาวที่รับการทำศัลยกรรมจมูกที่คลินิกแห่งหนึ่งถูกชักจูงจากคุณหมอว่ามี นวัตกรรมแบบใหม่ “ซิลิโคนไหม” อ้างว่าหลังทำแล้วจะดูสวยธรรมขาติ ไม่เจ็บไม่บวม แต่นั่นทำให้หน้าของเธอพัง
สมัยนี้การทำศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องผิดปกติ สาวๆหลายคนมักจะมองแค่เห็นคนนู้น คนนี้ทำมาแล้วสวย เพื่อนแนะนำคลินิกนี้ให้ไปทำ บางคนก็โดนคนรอบข้างยุยงว่า ทำจมูกนิดเดียวก็จบ ด้วยความที่อยากสวย จึงทำให้ไม่ได้ศึกษาหาข้อมูลให้ดี เสียก่อน
2 สาวได้รับพิษจากการทำศัลยกรรมจากการอ้างสรรพคุณว่ามีเทคนิคพิเศษของคลินิกแห่งหนึ่ง โดยทางคลินิกมีเทคนิคการทำจมูกด้วย “ซิลิโคนไหม” ไม่เจ็บ ไม่บวม และดูสวยเป็นธรรมชาติ แถมยังมีราคาที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ซึ่งนั่นทำให้เธอทั้งคู่ตัดสินใจทำ
สาว A (นามสมมุติ) ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับทำจมูกของตัวเองว่า ตนทำจมูกที่คลินิกแห่งนี้ก่อนหน้า สาว B (นามสมมุติ) เพราะเห็นเพื่อนๆทำออกมาแล้วสวยกันหลายคน และเมื่อไปปรึกษากับทางคุณหมอ เขาก็แนะนำเทคนิคใหม่นี้ แต่ราคานั้นค่อนข้างแพงกว่าการทำด้วยซิลิโคนปกติ
เพราะ คิดว่าที่แพงที่สุด คือดีที่สุด จึงตัดสินใจเลือก
ในช่วงที่ทำแรกๆนั้น ตัวเองค่อนข้างพอใจมาก เพราะออกมาสวยธรรมชาติ จนกระทั่งผ่านไป 3 ปีเริ่มมีอาการผิดปกติ เส้นเลือดเริ่มเห็นชัดขึ้น เริ่มมีรอยช้ำ วันหนึ่งได้เห็นเส้นเล็กๆโผล่ออกมาจากเนื้อจมูก ตอนแรกตนคิดว่าเป็นสิว จึงบีบออก แต่เมื่อบีบออกมาแล้วก็ตกใจ เพราะมันไม่ใช่สิว แต่เป็นแท่งซิลิโคนเล็กๆ จึงแน่ใจได้แล้วว่า โดนฉีดซิลิโคนเหลวอย่างแน่นอน
ในตอนแรก ตนตัดสินใจจะเข้าไปแก้ไขกับทางคลินิกเดิมที่ตัวเองทำ แต่โชคดีที่ได้พบการ B ก่อน ซึ่ง B ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลจากการฉีด ซิลิโคนไหมเช่นกัน และได้เข้าไปแก้ไขก่อนหน้านี้ แต่ผลที่ได้ออกมาก็ยังคงแย่ และยิ่งแย่กว่าเดิม
สาว B เล่าว่า เธอมีโครงหน้าที่ดีอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่มีคนยุยงบอกว่า ทำแค่จมูกนิดเดียวก็สวย และตัวเองก็อยากดูดีกว่านี้ จึงเข้าทำศัลยกรรมจมูก ซึ่งก่อนหน้าที่จะเข้ารับการศัลยกรรม เธอใช้เวลากว่า 2 ปีในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการศัลยกรรมเสริมจมูก เพราะคิดว่านี่เป็นครั้งแรก จึงไม่ยอมให้ผิดพลาด แถมเมื่อไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอก็ยังลดราคาให้เกือบครึ่งหนึ่ง ทำให้ตัวเองตัดสินใจทำทันที แม้จะทำหลังสาว A เกือบ 2 ปีแต่กลับมีผลกระทบก่อน
ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนแรกนั้น ตนยอมรับว่าจมูกที่ทำ สวยได้รูป เป๊ะทุกอย่าง แต่หลังจากทำได้ประมาณ 1 ปี จมูกเริ่มผิดรูป เริ่มเบี้ยวและ ย้อยลงมากองที่ส่วนปลาย ทำให้ปลายจมูกดูใหญ่ กว่าสัน จึงตัดสินใจเข้าไปปรึกษากับคลินิกเดิมเพื่อเข้าไปแก้ไข
เมื่อไปถึงที่คลินิก ตนได้แจ้งกับทางพยาบาลด้านหน้าว่าขอรับการแก้ไข ทางพยาบาลหลุดปากถามเจ้าตัวว่า “ใช้เทคนิค ‘ฉีด 18’ มาจากไหน?” ซึ่งทำให้ตัวเองงง เพราะไม่รู้ว่า คำศัพท์นี้หมายถึงอะไร ทางพยาบาลจึงถามย้ำใหม่อีกครั้งว่า “ไปเสริมเทคนิคนี้มากจากไหน?” สาว B จึงตอบว่า “ทำมาจากที่คลินิกแห่งนี้” พยาบาลได้คำตอบก็รีบเดินหายไป
เมื่อพบกับทางคุณหมอในคลินิก คุณหมอไม่ได้อธิบายว่าอาการแบบนี้เกิดจากสาเหตุอะไร แต่รับปากว่าจะแก้ไขให้ โดยการขูดซิลิโคนไหมนี้ออก และใส่ซิลิโคนแท่งแทน แต่หลังจากทำแล้ว อาการไม่จบ ปลายจมูกยังคงบวมอยู่แม้เวลาจะผ่านไป 2-3 เดือนแล้วก็ตาม อีกทั้งสันจมูกบริเวณตายังเว้าลึกเข้าไปทำให้หน้าผิดรูปอย่างเห็นได้ชัด ตนจึงตัดสินใจออกมาแชร์ประสบการณ์นี้ และได้เข้าไปปรึกษากับคลินิกอื่นแทน ไม่ขอกลับไปที่คลินิกเดิมอีกแล้ว
หลังจากที่ได้รับการแก้ไข นำซิลิโคนเก่าออกมา คุณหมอและพยาบาลต่างตกใจ เพราะมีเศษของซิลิโคนเหลว หรือที่เขาอ้างว่าเป็น ซิลิโคนไหม หลงเหลืออยู่ แถมซิลิโคนแท่งที่นำออกมานั้นก็มีการเจาะรูเล็กๆ ไม่รู้ว่าเจาะเพื่ออะไร แต่ตอนนี้แก้ไขแล้ว ค่อนข้างที่จะพอใจ เพราะปลายจมูกเริ่มยุบลงและ กลับทรงเดิม แต่ปัญหาสันจมูกบริเวณตานั้น ยังแก้ไม่หาย
ทางคุณหมออีกคลินิกแจ้งว่า เป็นเพราะทำกับคลินิกแรก ซึ่งทางคลินิกแห่งนั้นใช้วิธีการคว้านเนื้อเพื่อเอาซิลิโคนเหลวที่ฉีดออก ทำให้เนื้อส่วนนี้หายไปมาก ทางเดียวคือการเอาเนื้อเยื้อของตัวเองใส่ไปแทนที่
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ของ 2 สาวที่ได้รับพิษจากการศัลยกรรม ตอนนี้พวกเธอกำลังจะได้รับการแก้ไขใหม่แล้ว จากคลินิกที่ไว้วางใจได้ โดยเฉพาะ สาวB ที่จำเป็นจะต้องใช้กระดูกซี่โครงของตัวเองในการช่วยรักษาบริเวณสันจมูก
การทำศัลยกรรมสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกและใครๆก็ทำได้ทั้งนั้น แต่ก่อนที่จะทำ ควรที่จะศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน เกี่ยวกับซิลิโคนและผลกระทบหลังจากทำเสียก่อน อีกทั้งควรเลือกคลินิกที่ไว้วางใจได้มากที่สุด “ราคาไม่ใช่ตัวตัดสินคุณภาพเสมอไป” หากใครที่ต้องการรับการศัลยกรรมที่ปลอดภัย สามารถปรึกษากับทางโดดเด่นได้ค่ะ ทั้งทางเว็บบอร์ด และทาง แฟนเพจ ได้เลยค่ะ