เมื่อ 4 ส.ค. นายเย ทุต โฆษกรัฐบาลพม่า แถลงยอมรับว่าความอ่อนแอ ในการบริหารจัดการปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลมีส่วนทำให้การอพยพผู้ประสบภัยในหลายพื้นที่ดำเนินไปอย่างล่าช้า
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในรัฐฉิ่น รัฐยะไข่ เขตมาเกว และเขตสะกายของพม่าทวีความรุนแรงขึ้น โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วราว 47 ราย พม่ายังขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ไม่ว่าเสบียงอาหาร ที่พักชั่วคราว และเครื่องนุ่งห่ม เพื่อช่วยผู้ไร้ที่อยู่อาศัยอีกราว 215,000 คน
นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เมืองซีอานของจีน ทำให้มีผู้ถูกน้ำซัดจมเสียชีวิต 9 ราย และสูญหายอีก 8 ราย ส่วนที่นครมุมไบของอินเดียเกิดเหตุตึกถล่มหลังน้ำท่วมเซาะทำลายโครงสร้างฐานตึก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และปากีสถานเผยสถิติผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมทั่วประเทศที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.เพิ่มเป็น 118 ราย
ความเสียหายทีค่ายผู้อพยพชาวโรฮีนจา ในเมืองซิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ (ภาพ: REUTERS)
ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นในดินแดนกวมของสหรัฐฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านภัยพิบัติ หลังพายุไต้ฝุ่นเคลื่อนผ่านพื้นที่เกาะไซปันด้วยความเร็วลมประมาณ 160 กม.ต่อ ชม. ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชนอย่างหนัก จากนั้นพายุไต้ฝุ่นจึงได้เคลื่อนไปยังตอนเหนือของไต้หวันต่อไป
ด้านสถานการณ์ไฟป่าเผาไหม้พื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ยังไม่มีทีท่าสงบ พนักงานดับเพลิง 9,000 คน ยังพยายามอย่างหนักเพื่อดับไฟป่ากว่า 20 จุด ประชาชน 13,000 คนได้รับคำสั่งอพยพหนีไฟป่า.