ของทานเล่นธรรมดาๆ อย่าง ‘โยเกิร์ต’ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าที่คิด มีนักวิจัยท่านหนึ่งสันนิษฐานว่า เมื่อวิตามิน เกลือแร่ และโปรไบโอติกส์ในโยเกิร์ตมารวมตัวกัน มันจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
นอกจากนี้แบคทีเรียชนิดดีทั้งหลายยังร่วมมือกันต่อต้านเชื้อโรคร้ายที่เป็นภัยต่อสุขภาพของคุณด้วย โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า จุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ในโยเกิร์ต ช่วยต้านโรคร้ายแรงได้หลายชนิด ตั้งแต่ป้องกันโรคหวัดตามฤดูกาลไปจนถึงช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ว่าแล้วอย่ารอช้า เลื่อนไปอ่านประโยชน์ยิบย่อยเหล่านี้ แล้วหยิบช้อนมาตักโยเกิร์ตใส่ปากกันดีกว่า …
1. ป้องกันโรคภูมิแพ้
คนไข้ที่กินโยเกิร์ตซึ่งมี บี.แลคทิส (B. lactis) ทุกวันนาน 8 สัปดาห์ จะมีอาการในระบบทางเดินหายใจลดน้อยลงกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดื่ม นักวิจัยคาดว่า บี.แลคทิส นี้มีส่วนช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวผลิตสาร ‘ฮีสตามีน’ น้อยลง จึงส่งผลให้ความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ลดลงไปด้วย
2. รักษาโรคหวัด
นักวิจัยในญี่ปุ่นพบว่า การกินโยเกิร์ตซึ่งมีแลคโตบาซิลลัส คาเซอิ ชิโรตา (L. casei Shirota) ทุกวัน จะช่วยให้อาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนหายเร็วขึ้น 31% เพราะแบคทีเรียชนิดนี้มีบทบาทในการกระตุ้นเซลล์ต้านทานเชื้อโรคให้ทำงานได้เต็มที่ เซลล์นี้จึงทำหน้าที่ปราบไวรัสในร่างกายคุณได้อย่างราบคาบ …
3. ช่วยในการขับถ่าย
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ… โยเกิร์ตช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาท้องผูก ขับถ่ายได้ดีขึ้นถึง 62% ! เมื่อทานโยเกิร์ตที่มีส่วนผสมของแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส เอซิโดฟิลัส และบี.แลคทิส (L. acidophilus plus B. lactis) มันจะช่วยลดค่า pH ในลำไส้ เพิ่มความขยันให้สารสื่อประสาทและกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ให้คุณถ่ายคล่อง-สะดวกมากขึ้น
4. ขจัดอาการท้องไส้ปั่นป่วน
จากวารสาร PLOS One ระบุว่า โปรไบโอติกส์สามารถช่วยรักษาโรคในระบบทางเดินอาหารได้มากถึง 8 โรค รวมถึงโรคท้องร่วง และลำไส้แปรปรวน อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคทั้ง 8 ลงได้ถึง 42% เพราะสามารถเอาชนะเชื้อโรคในระบบทางเดินอาหารได้ อย่างไรก็ดี นักวิจัยยืนยัน ให้คุณเลือกโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียหลากหลายชนิด ซึ่งจะมีประสิทธิภาพมากกว่า และช่วยลดความเสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหารลงได้มากกว่า !
5. ต้านเบาหวาน
งานวิจัยล่าสุดจากอังกฤษพบว่า โยเกิร์ตสามารถป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ โดยผู้เข้าร่วมการวิจัยที่กินโยเกิร์ตประมาณ 1/3 ถ้วยตวงต่อวัน จะมีโอกาสเป็นเบาหวานประเภทที่ 2 ลดน้อยลงกว่าคนที่ไม่กินโยเกิร์ตถึง 28% …
ที่มา : Women’s Health Thailand