เว็บไซต์เดลีเมล์ของอังกฤษรายงานถึงโศกนาฏกรรมของวิกฤติผู้อพยพจากประเทศแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ที่พากันหลั่งไหลเข้ามาในทวีปยุโรป เพื่อหนีชีวิตอันแร้นแค้น ล่าสุดศพเด็กชายนิรนามชาวซีเรียคนหนึ่ง วัยประมาณ 2-3 ขวบ ถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหายที่เมืองโบดรัม ประเทศตุรกี ในเช้าวันพุธที่ผ่านมา ก่อนที่ทหารจะมาพบและอุ้มขึ้นไปบนชายฝั่ง หลังจากที่ครอบครัวของเด็กชายพยายามจะเดินทางข้ามแดนไปสู่ยุโรป
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานระบุว่าชะตาครอบครัวของเด็กชายจะเป็นเช่นไร หากแต่มีเพียงข้อสันนิษฐานว่า ครอบครัวของเด็กชายน่าจะเป็น 1 ใน 11 คนที่เสียชีวิตไปในเหตุเรือ 2 ลำประสบอุบัติเหตุชนกันที่นอกชายฝั่งตุรกี และหลังจากนั้นเรือลำหนึ่งซึ่งบรรทุกผู้โดยสารไว้ 16 และมีจุดหมายปลายทางคือเกาะเคโอสของกรีก ก็จมลงไปในน่านน้ำสากล โดยมีเพียง 4 คนเท่านั้นที่ได้รับการช่วยชีวิต ก่อนที่เรือลำที่ 2 จะจมลงตามในเวลาต่อมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นหญิงสาว 1 ราย และเด็กอีก 3 ราย
เรื่องราวเด็กชายคนดังกล่าวนี้เป็น 1 ในผู้อพยพจำนวน 2,500 รายที่ต้องเสียชีวิตไปในปีนี้ ระหว่างการหลบหนีทั้งความรุนแรง การกดขี่ และความยากจนขัดสนในบ้านเกิดเดิม ก่อนจะข้ามน้ำข้ามทะเลมายุโรปเพื่อดิ้นรนหาชีวิตที่ดีกว่า