ที่มา: dodeden

เคยเป็นพระเอกเบอร์หนึ่งของวงการ การันตีด้วยเรตติ้งและกระแสของละครที่เล่น แต่อยู่ๆ วันหนึ่ง “โอ-วรุต วรธรรม” ก็หายหน้าไปจากวงการบันเทิง มาสาย เบี้ยวงาน “ติดเหล้า” จนผู้จ้างผู้จัดเอือมระอา

เป็นเหตุให้เจ้าตัวไร้งาน ชื่อเสียง เงินทอง ภาพลักษณ์ดีๆ ที่เคยมีหายวับไปกับตา จนถึงขีดสุด ที่เหล้าทำลายทุกอย่าง อาการหนักถึงขั้นสมองไม่สามารถควบคุมการเดิน

รวมถึงควบคุมปัสวะอุจาระไม่ได้ มาวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป “พี่โอ” เลิกเหล้า เปลี่ยนเป็นคนใหม่ พร้อมหวนเล่นละครอีกครั้ง ซึ่งรายการ “เปิดโปง” ได้สัมภาษณ์มาฝากกัน

IMG_4061

ก่อนหน้านี้ติดเหล้า มาสาย เป็นเจ้าชายสายเสมอ ?

 “มีตั้งแต่นัด 8 โมงไปเที่ยง นัดเที่ยง ไป 6 โมง นัด 6 โมง ไป 5 ทุ่ม หรือถึงขั้นยกกอง”

ทางกองเขาว่ายังไงบ้าง ?

 “ครั้งแรกเขาก็ยังเฉยๆ อยู่แหละ แล้วมันมาหนักตรงหลังๆ ที่ผมดื่มเหล้าจัดเนี่ย คือมันลุกไม่ได้เลย ลุกไม่ขึ้น หรือลุกขึ้นก็ไปทำงานโดยที่ไม่มีสภาพ แล้วเบี้ยวเขาทั้งคิวเลย”

ยกกองครั้งหนึ่งนี่เสียหายเท่าไหร่ ?

 “อย่างแรง หลายแสน ยิ่งวันนั้นผมว่าน่าจะเกินครึ่งล้านนะครับ ก็ต้องกราบขอโทษด้วย”

ผู้ใหญ่ไม่เตือน ?

“ก็เตือนครับ เมื่อไหร่จะเลิกสาย ถ้าสายอีกฉันจะตัดบทแกนะ ตัดให้มันน้อยลง ช่วงเช้าก็ไปถ่ายอย่างอื่นกัน ชอบมาสายก็ไปถ่ายบ่ายๆ”

ผู้ใหญ่เตือนไม่กลัว ?

“ก็ไปนอนที่โน้นเลย ไปหลับที่หนองแขม(กองถ่าย) ดื่มเหล้าอยู่ดึกๆ ขับรถไปหนองแขมเลย ไปจอดนอนโน้นเลย พอถึงเวลาเขาก็มาปลุก”

คิดไหมว่าเราต้องเลิกเหล้าแล้ว ?

 “ตอนนั้นไม่คิด สมัยก่อนไม่ได้คิด สมัยก่อนมันยังไม่มีแฟน ไม่มีอะไรมันก็กินไปเรื่อย ตื่นมาปุ๊บมันก็ยังทำงานได้ แต่หลังๆ พอกินเพียวๆ หนักๆ มันทำลายประสาท ทำลายอวัยวะทุกๆ ส่วน ทำลายเส้นประสาท ทำลายตับ ยิ่งสมองเนี่ยสำคัญที่สุด มันทำลายสมองโดยตรง”

จำบทไม่ได้ ?

“บทยังจำได้อยู่แต่มันทำลายในส่วนการควบคุมการเดิน การทรงตัว เดินไม่ตรง”

ช่วงที่หายไปไม่มีงานเพราะติดเหล้าไปอยู่ไหนมา ?

 “ไปอยู่บ้านที่เชียงใหม่ เป็นปีๆ เลย ก็ไปนั่งๆ นอนๆ ไปอยู่กับคุณแม่ คุณแม่บอกว่าถ้าลูกเป็นอย่างนี้ลูกมาอยู่กับแม่ดีกว่า อย่างน้อยแม่พ่อก็ดูแลลูกได้ อยู่กรุงเทพมันไม่มีใคร

อย่างที่เราบอกว่าคนเราเวลาตกต่ำมันก็มักจะไม่มีใครมาเหลี่ยวแล แต่ไม่ใช่เพื่อนๆ นะ เพื่อนยังคอยดูแลผมอยู่ตลอด

IMG_4063

แต่ว่าพอช่วงที่มันไม่ไหวแล้ว ที่ผมเริ่มดื่มเป็นขวดลิตร แม่ก็บอกให้ไปอยู่นู้น(เชียงใหม่) คือไปอยู่โน้นเนี่ย ก็ไม่ได้ดัดจริตนะครับ ไปกับคุณแม่ เข้าวัดเข้าวา จะมีพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศผมต้องไปสวดที่นั่นทุกวันอาทิตย์  สวดเป็นเรื่องเป็นราว เป็นหลายๆ ชั่วโมง”

เข้าวัดแล้วดีขึ้นไหม ?

“ดีขึ้น แล้วก็ไปวัด พระธาตุโน้นพระธาตุนี้ ผมไม่อยากจะเชื่อนะว่าสิ่งที่หลายๆ คนพูดกับเราว่าธรรมะ หรือการสวดมนต์ การเข้าวัดเข้าวามันจะช่วยได้จริงๆ มันทำให้เราปล่อยวาง ทำให้เรามีสติ แม้จะเป็นสติสั้นๆ ก้าวแต่ละก้าว ถ้าเราใช้สติมันจะไม่มีข้อผิดพลาดเลย”

คิดตอนไหนว่าจะเลิกเหล้า ?

 “คิดตอนที่ร่างกายมันไม่ไหว ไม่ใช่ที่วัดนะ ตอนนั้นยังไม่คิด ออกจากวัดมาเข้าบ้านก็กิน กินอยู่เหมือนเดิม แต่ว่าพอมาถึงจุดจุดหนึ่งที่เหล้ามันทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกายของเรา

โดยเฉพาะประสาท วันสุดท้ายที่ผมหยุดกินคือผมลุกขึ้นมา แล้วล้มซี่โครงหัก ล้มแล้วข้อศอกขวาผมมันกระแทกเข้าไปตรงซี่โครง ลุกขึ้นมาทรุด เดินเนี่ยเป๋ไม่เป็นทาง  ขอโทษนะครับปัสสาวะ กับอุจจาระเนี่ยมันหลุดออกมาเอง มันอุบาดมาก สมองมันไม่สั่งงาน กว่าจะเดินได้ปกติใช้เวลาอาทิตย์หนึ่ง แต่ว่าสมองที่มันเสียไป เรื่องของความจำหมด กว่าจะฟื้นเป็นเดือน”

แล้วตอนนี้เป็นไงบ้าง ?

“ไปตรวจสุขภาพมา ณ วันนี้ ก็ดีหมด ทุกอย่างปกติ หมอยังงงเลย คุณโอทำได้ไง”

แล้วคุณทำได้ยังไง ?

 “ก็หยุดกินครับ แล้วก็ออกกำลังกายพอสมควร แล้วก็กินอาหารที่มีประโยชน์”

เหล้าเนี่ยตอนเลิก คุณงดทั้งทีหรือค่อยๆ ลด ?

“ตอนที่ผมหยุดคือหยุดเลย หักดิบไหม คือมันๆ ไม่ได้ติดไง ไม่ใช่ว่าตื่นมาแล้วหาเหล้าๆ กินเหล้าแล้วสบายไม่ใช่ เพียงแต่ว่าตื่นมาแล้ว หันไปทางไหนมันก็… กินเหล้าดีกว่า มันเป็นแบบนี้ เหตุผลที่กินเหล้า ไม่ใช่ว่าตื่นขึ้นมาแล้วมันอยากเหล้า แต่เหตุผลมันคือความเหงา ความหว้าเหว่”

ภาพ โอ วรุต ตอนเป็นพระเอกวัยรุ่น 

A12588278-30

คุณเคยเป็นพระเอกเบอร์หนึ่ง ของวงการ  จากที่อยู่สูงสุด มาถึงจุดต่ำสุด ?

 “อันนี้ผมไม่คิดมาก ตอนที่ผมอยู่สูงสุดผมคิดไว้แล้วว่าวันหนึ่งเราต้องตก ไม่เรียกว่าทำใจ เรียกว่าเข้าใจวงวงจรของชีวิตการเป็นดารา ในช่วงชีวิตที่ผมอยู่ในวงการเนี่ยผมสูงสุด ไม่ได้สูงปรี๊ดแล้วก็ลงมาเลย

ผมสูงปรี๊ดแล้วผมไปค้างอยู่บนโน้น 20 กว่าปี ช่วง 20 กว่าปีผมคิดมาตลอดว่ายังไงวันหนึ่งเราก็ต้องตกลงมา แต่ตกลงมาแค่ไหนไม่รู้ ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันจะตกแค่ไหน แต่ผลมันคือตอนตกมันทะลุลงไปข้างล่างเลย(หัวเราะ) ลงไปโน้นเลย”

1408802782-A125882782-o

ณ เวลานั้นคือพีคมาก มีทุกอย่าง หน้าตา ชื่อเสียง เงิน สังคม ?

“พูดง่ายๆ ไม่มีอะไรที่ผมไม่เคยทำ ขับเครื่องบิน เรือยอร์ชก็มี เครื่องบินเกือบซื้อแล้ว ที่ไม่ซื้อเพราะกลัวตาย ซื้อแล้วต้องบิน บินแล้วต้องกินเหล้า ถ้ากินเหล้าแล้วขับเครื่องบินตายแน่นอน”

ตกต่ำที่สุด ?

 “ทะลุลงดินไปเลย ไปโน้นใต้บ่อบาดาล ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเลย ก็มึงทำตัวเอง ใครเขาทำมึงที่ไหนล่ะ มึงทำตัวเอง มึงก็รับไปสิ”

IMG_4065

ไม่คิดทำอาชีพอื่นเหรอ ?

“ขอโทษนะครับ ตั้งแต่จบโรงเรียนการบินมาเนี่ย ที่เมืองไทยไม่จบ แต่ที่อังกฤษจบ มันทำอะไรไม่เป็น กลับมาเมืองไทยมาเรียนการบินต่อ เรียนๆ ไปก็ไปถ่ายแบบ ถ่ายละคร ไปถ่ายสหนัง หยุดเรียนไปเลย

แล้วหลังจากนั้นมาก็คืออยู่ในวงการละคร วงการหนัง วงการทีวีมาตลอด จนทำอะไรไม่เป็น ทำไม่เป็น คิดไม่ออก ถ้าทำร้านอาหารทำได้ เพราะว่าตอนอยู่อังกฤษเป็นเชฟ ไม่ใช่ธรรมดานะ(หัวเราะ) ไม่ใช่แค่เชฟ เป็นเฮดเชฟด้วย(ยิ้ม)”

ตอนนี้ได้โอกาสกลับมาเล่นละครอีกครั้ง ?

“เล่นละครของพี่โน่ (นี่โน่ เมทินี) เขาเป็นพี่ชายของผม เป็นพี่ชายจริงๆ ก็หลังจากที่กลับไปอยู่เชียงใหม่ แกก็จะโทรเช็กตลอดว่าเราดีขึ้นหรือยัง ทำงานไหวไหมมึง (หัวเราะ)

อันนี้เราพูดภาษาพี่น้องนะครับ ขอโทษที ทำงานไหวไหมมึงไอ้โอ ผมก็บอกไหวแล้วพี่ ชัวร์ มึงชัวร์แน่นะ กูเอามึงมา มึงเล่นไม่ได้ เดินไม่ตรงกูตายเลยนะ ผมก็รับรองสัญญา ก็กลับมาก็ได้เล่น ตอนนี้ละครก็จบไปแล้ว”

กลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง  ?

“ก็ดีใจมาก คือพี่โน่ให้โอกาสให้ความกรุณาที่เอาเราไปให้ผู้จัดคนอื่นๆ หรือว่าประชาชนทั่วประเทศได้เห็นว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเป็นแล้ว ไม่มาสายแล้ว ก็น่าจะมีละครเรื่องต่อไป ก็น่าจะเป็นของพี่โน่อีกนั่นแหละ เพราะว่าผู้จัดท่านอื่นยังไม่ไว้ใจ”

แล้วคุณไว้ใจตัวเองไหม พร้อมร่วมงานกับผู้จัดท่านอื่นแค่ไหน ?

“ผมทดสอบตัวเองมาแล้ว(หัวเราะ) อย่างเช่นผมไปเที่ยวโคโยตี้ คือผมมีบัตรสมาชิกอยู่ ผมก็เที่ยวได้ทุกที่แถบเกษตรนวมินทร์อะไรพวกนี้ ก็ไป การที่นั่งอยู่บ้านเฉยๆ เราก็คิดว่ามันไม่ควรนะ

เราควรได้ออกไปพบปะกับใครบ้างปรากฏว่า สาวๆ (โคโยตี้)เซ็ง เพราะเราไม่เมา พอไม่เมาคนที่เราเคยนั่งอยู่ด้วย เขาก็จะบอกพี่โอเล่านิทานให้ฟังหรือยัง เราก็ถามนิทานอะไร เขาบอกพี่โอเล่านิทานตลกมาก เขาก็จะบอกว่าพี่เป็นอย่างนี้แหละ ไม่เมาแล้วจะไม่ค่อยพูด”

เรื่องน่าสนใจ