ชาวสิงคโปร์ชักโกรธ… วิถีชีวิตประจำวันต้องหยุดชะงัก ได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาหมอกควันไฟไหม้ป่าที่ลอยมาจากอินโดนีเซีย ทำสภาพอากาศมัวซัว ทัศนวิสัยแย่ จนทางการต้องสั่งปิดโรงเรียน และค่าดัชนีมลพิษในอากาศสูงมากจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวหมอกควันจากอินโดนีเซียที่ลอยมาถึงสิงคโปร์ ส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนบนเกาะสิงคโปร์อย่างหนัก จนทำให้ชาวสิงคโปร์เริ่มมีความรู้สึกโกรธไม่พอใจมากขึ้น เพราะถึงขั้นระดับมลพิษของควันอยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องปิดโรงเรียนทั่วเกาะ และการดำเนินชีวิตกลางแจ้งในสิงคโปร์แทบต้องหยุดชะงัก หลังจากผลการตรวจวัดค่าดัชนีมลพิษในอากาศ หรือ (Pollutant Standards Index) หรือ PSI เมื่อเช้าวันนี้ (25ก.ย.) ขึ้นไปแตะระดับสูงถึง 341 ซึ่งเป็นค่ามลพิษในอากาศที่สูงที่สุดในปีนี้ของสิงคโปร์
ก่อนหน้านี้ กระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ต้องออกมาประกาศปิดโรงเรียนประถม และมัธยมทั่วประเทศ รวมทั้งโรงเรียนอนุบาลของรัฐ วันศุกร์นี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากโรงเรียนในสิงคโปร์ไม่ได้มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามห้องเรียนในโรงเรียนครบทุกโรง หลังจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสิงคโปร์ ระบุว่า ผลการตรวจวัดค่าดัชนีมลพิษในอากาศ หรือ (Pollutant Standards Index) หรือ PSI ในสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. มีค่าขึ้นสูงสุดถึง 314 และในช่วง 24 ชม. อยู่ที่ 223-275 เมื่อเวลา 22.00 น.ของคืนวันเดียวกัน
สำหรับสาเหตุหมอกควันเกิดจากไฟไหม้ป่าในอินโดนีเซีย ได้ดำเนินมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่กลับมาปะทุรุนแรงขึ้นในช่วงใกล้สุดสัปดาห์นี้ โดยหมอกควันไฟจากอินโดนีเซียเป็นปัญหาที่เกิดประจำทุกปี เนื่องจากเกษตรกรในอินโดนีเซียได้เผาที่สวนที่นาเพื่อเตรียมปลูกต้นปาล์มและยางพารา ขณะที่ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์กล่าวเมื่อค่ำวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ปัญหาหมอกควันจากไฟไหม้ป่าในอินโดนีเซียแสดงให้เห็นถึงความไม่เอาใจใส่ของรัฐบาลอินโดนีเซียต่อชาวสิงคโปร์และประชาชนในอินโดนีเซียเองด้วย
ทั้งนี้ ค่า PSI ในอากาศ ถ้าตัวเลขสูงกว่า 300 ถือเป็นระดับที่เป็น‘อันตราย’ต่อสุขภาพ