เนื้อหาบางส่วนโดย Dodeden.com
ยาเสพติด ไม่เคยมีผลดีกับใคร และไร้ซึ่งประโยชน์มีแต่โทษที่จะทำให้ชีวิตหลายๆ คนนั้นพัง ซึ่งหลายต่อหลายคนนั้นก็ทราบกันดี เช่นเดียวกับ พระเอกหนุ่มแถวหน้าชื่อดังของฮอลลีวู้ดอย่าง “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” หรือที่เรารู้จักกันดีในบทบาทของ “ไอรอนแมน” ที่อดีตของเขาก็เคยเป็นหนุ่มติดยาเสพติดมาก่อน ก่อนที่จะพลิกชีวิตตัวเองให้กลับมาประสบความสำเร็จได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นกำลังใจชั้นดีให้กับคนที่เคยติดยาเสพติดมาก่อนเลยล่ะค่ะ!
มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อว่า “Rungroj Prachyakoon” ได้ออกมาเล่าเรื่องราวประวัติก่อนที่จะมาเป็นพระเอกหนุ่มชื่อดัง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ใครจะไปทราบว่าเขาเคยเป็นคนที่ติดโคเคนแบบงอมแงม และเรียกได้ว่าชีวิตแทบหมดอนาคตเพราะยาเสพติด อยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดของชีวิต ก่อนจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และไม่คิดหันไปแตะต้องยาเสพติดอีกเลย โดยเรื่องราวของ ดาวนีย์ จูเนียร์ มีอยู่ว่า …
“หลังจากได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จากการรับบท ชาลี แชปปลิน ในหนังเรื่อง Chapline ในปี 1992 …ใครๆ ก็คาดหมายว่าเขาน่าจะเป็นดาวจรัสแสงดวงต่อไปของฮอลลีวูด… แต่กลับเป็นตรงกันข้าม เขากลับดำดิ่งสู่จุดต่ำสุดของชีวิต เพราะสิ่งที่เรียกว่า “ยาเสพติด”
โรเบิร์ตติดโคเคน เฮโรอีน และกัญชาอย่างหนัก และถูกจับเข้าห้องขังหลายครั้ง จากข้อหายาเสพติดและพกพาอาวุธ การใช้ยาเสพติดอย่างหนัก ทำให้เขาหลอน และมีปัญหาในการทำงานหลายครั้ง … ครั้งหนึ่งเขาไปถึงกองถ่ายสายกว่า 2 ชั่วโมง และอยู่ในสภาพไม่พร้อมทำงานอย่างหนัก จนกองถ่ายตะเพิดเขาออกมา
ชื่อของโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ค่อยๆ กลายเป็นดาวดับแสงในฮอลลีวูด ผู้สร้างต่างพากันเอือมระอา จนเขาแทบจะไร้งาน ไร้เงิน…ภรรยาคนแรกของเขา ก็ทนกับพฤติกรรมอันเหลวแหลกไม่ไหว จึงหอบผ้าหอบผ่อน และลูกชายหนีไป โดยไม่มีคำร่ำลา ในปี 1997 โรเบิร์ตถูกจับเข้าห้องขังอีกครั้ง แล้วไปมีเรื่องวิวาทกับนักโทษในเรือนจำ จนถูกเพิ่มโทษจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากพ้นโทษออกมา เขาถูกปฏิเสธจากงานในวงการ จนทำให้เขาต้องกลับไปใช้ยาเสพติดอีกครั้ง แล้วก็เดินเข้าๆ ออกๆ ห้องขังวนเวียนอยู่อย่างนี้….ตลอดช่วงปี 2001 – 2003
ชีวิตของเขาตอนนี้ พังพินาศ แทบไม่ต่างอะไรจากคนจรจัด ไร้งาน ไร้เงิน ไร้อนาคต แถมยังมีคดีความฟ้องร้องอีกมากมายยาวเป็นหางว่าว จนแทบจะกลายเป็นบุคคลล้มละลาย…ชีวิตไร้ทางสว่าง มืดมนจนไม่รู้ว่าจะก้าวข้ามมันไปยังไง…”
“วันหนึ่งในปี 2003 … โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เดินอยู่ริมชายหาด ในกระเป๋ายังคงพกโคเคนเอาไว้อยู่…เขาเร่ร่อน ไร้งาน ไร้เงิน และกำลังสิ้นหวังกับชีวิต…เขาหยุดยืนมองดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดิน แล้วก็คิดทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา…แล้วตัดสินใจ ทำสิ่งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต…เขาหยิบโคเคนออกมา และเขวี้ยงมันลงทะเล…”
“หลังจากผ่านการบำบัดอย่างหนักหน่วง 2 ปี…โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ พยายามที่จะกลับเข้ามาสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง…แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ในเมื่อชื่อของเขา ยังคงติดแบล็คลิสต์…ความเชื่อมั่นหมดสิ้น…
มีเพียงเพื่อนเก่า “เมล กิ๊บสัน” เท่านั้น… ที่ยังคงมองเห็นศักยภาพในตัวชายผู้นี้้…ทั้งคู่เคยแสดงร่วมกันในหนัง “Air America” (1990) และกิ๊บสันก็รู้ดีว่า โรเบิร์ตนั้นเก่งขนาดไหน… เมล กิ๊บสัน พยายามผลักดัน เพื่อให้โรเบิร์ตได้แสดง ในหนังอินดี้ฟอร์มเล็กชื่อ The Singing Detective โดยเขาลงทุนควักงินส่วนตัว เพื่อจ่ายค่าประกันให้กับหนังเรื่องนี้ ในกรณีที่โรเบิร์ต ทำให้หนังล่มกลางคัน แต่เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต…โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม…โดยไม่มีปัญหาใดๆ หลังจากนั้น เขาก็เริ่มมีงานเข้ามาเรื่อยๆ และค่อยๆ กลับมาในเส้นทางบันเทิง
จนกระทั่งในปี 2007 เมื่อค่ายหนังน้องใหม่อย่าง มาร์เวล สตูดิโอ จะทำหนังของตัวเองเรื่องแรก “Iron Man” ไม่มีใครคิดถึงโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เพราะชื่อที่ทุกคนนึกถึงเป็นซุปเปอร์สตาร์ เอ-ลิสต์ อย่าง ทอม ครู้ซ, จอห์นนี่ เด๊ปป์ แต่จอห์น เฟฟโรว์ ผุ้กำกับ เมื่อเขาได้ทำความเข้าใจกับตัวละครเศรษฐีขี้เมา ที่ออกปกป้องโลกภายใต้ชุดเกราะเหล็กในนาม ไอรอน แมน…ชื่อเดียวที่เขานึกถึง คือ RDJ คงเพราะชีวิตที่โลดโผนคล้ายๆ กัน เป็นเวลานานกว่าที่เฟฟโรว์ จะกล่อมให้ผู้บริหารสตูดิโอเชื่อมั่น ในตัวของนักแสดงชื่อเสียคนนี้ เขาเลยเอาวิดีโอ ที่โรเบิร์ตมาทำสกรีนเทสต์ให้ทุกคนดู แล้วทุกคนก็เชื่อว่า โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ คือ โทนี่ สตาร์ก”
“ปัจจุบัน (ปี 2015) โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เป็นนักแสดงชายที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันแล้ว และเป็นขวัญใจคนทั่วโลกจากบทบาทของไอรอนแมน เขาขึ้นมายืนแถวหน้า กลายเป็นนักแสดงระดับเอ – ลิสต์ เฉกเช่นเดียวกับทอม ครูส และจอห์นนี่ เด็ปป์….และพิสูจน์ความเป็นนักแสดงมากฝีมือ ด้วยการถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์อีกครั้ง จากบทนักแสดงผิวดำ ใน Tropic Thunder เขาพบรักกับ ซูซาน เลวิน โปรดิวซ์เซอร์ที่เคยทำงานร่วมกัน ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2005 และมีลูกชายที่น่ารัก 1 คน ทั้งคู่ยังรักกันดีจนถึงทุกวันนี้ …เขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกเลย”