คบกันมายาวนานร่วม 6 ปีจนกลายเป็นคู่รักมาราธอนออีกคู่ สำหรับ “เพชรจ้า-วิเชียร กุศลมโนมัย” และ “นิวเคลียร์-หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์” ซึ่งหลายคนก็ลุ้นให้ลงเอยเข้าประตูวิวาห์กันเสียที
ที่สำคัญฝ่ายหญิงก็เอ่ยปากว่าพร้อมแล้ว รอแค่ฝ่ายชายมาขอ แต่หนุ่ม “เพชรจ้า” ก็ไม่กระดิกตัวไปขอซักที ไม่รู้ว่าหวงความโสด หรือยังไม่สิ้นลายกันแน่
น้องรอเรามาขออยู่ รู้ไหม เขาเคยให้สัมภาษณ์ประมาณนั้น ?
“เร่งเหลือเกิน (หัวเราะ) จริงๆ ผมขีดเส้น ไว้ให้เขาประมาณ 2 ปี แต่คนก็ถามว่าทำไมดึงไว้ แต่ผมต้องบอกว่าตอนนี้ผมทำธุรกิจส่วนตัวอยู่เยอะมาก แล้วผมมีเป้าหมายของผมอยู่ว่ามันต้องถึงยอดนี้ก่อน กำไรของผมมันต้องอยู่ตรงนี้ แล้วผมจะหยุดแล้ว ผู้ชายมันจะมีเป้าหมาย เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำตรงนี้ ถึงตรงนี้เราจะสบายแล้ว เราไม่ต้องมาโหมงานในวงการ ผมก็รอ และคิดว่า 2 ปี มันน่าจะไปถึงตรงนั้นพอดี”
หวงความโสดหรือเปล่า ?
“ทุกวันนี้ก็ไม่เหลืออะไรแล้วครับ (ยิ้ม) ทุกวันนี้ก็เหมือนแต่งงานอยู่แล้ว เดินไปไหนสาวๆ ก็ไม่กล้าคุยอยู่แล้ว”
ไม่ได้กลัวหมดอิสระภาพ ?
“ไม่ครับ ผมว่าแฟนผมดีอย่างเขาไปไหนไปกัน แล้วเขาชอบอะไรเหมือนผม ชอบรถ ชอบนาฬิกา ชอบนั่งคุยกับเพื่อนๆ เขาไม่ได้เป็นสไตล์ที่แบบเราไปเจอเพื่อนแล้วเขามานั่งเบื่อ เขาไม่ได้เป็นแบบนั้น
ผมคบมา 5 ปีกว่าแล้ว ผมรู้แล้วว่าคนนี้ไปรอด แต่ว่าสิ่งที่ต้องรอก็คือรอให้ผมโอเคกับเรื่องธุรกิจก่อน ผมเป็นผู้ชายที่อยากจะทำทุกอย่างให้มันสมบูรณ์ก่อน แล้วคุณหิ้วกระเป๋ามา เหมือนเข้าบ้านเอเอฟ(ยิ้ม) หิ้วมาสบายด้วยกัน ไม่ต้องมาช่วยพี่ทำอะไร ผมอยากให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบก่อน”
แต่งแน่ๆ แพลนเรื่องสินสอดไว้รึยัง ?
“คิด โอ้โหผมตีจนปวดหัวไปหมดแล้ว คิดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายงานแต่งว่ามันจะต้องใหญ่ แขกเป็นพัน คิดไปหมดแล้วตอนนี้เพียงแต่ว่าต้องรอไปก่อน อีก 2 ปี”
ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายเร่งไหม ?
“ฝ่ายผมไม่เหลือแล้ว เหลือแต่คุณแม่ ซึ่งคุณแม่เขาก็แล้วแต่เรา แต่ฝ่ายนั้นเขาก็ไม่กดดันเท่าไหร่ แต่จะแบบจริงๆ มันแต่งได้แล้ว”
คาสโนว่าตัวพ่อสิ้นลายแล้ว ?
“มันก็ต้องแฟนคนนี้แล้ว อย่าว่าสิ้นลายเลย เสือมันยังต้องมีลาย อาจจะเล็บกุดเท่านั้นแหละ(หัวเราะ) ฟันหลอ เป็นเสื่อแก่ฟันหลอ เล็บกุด วิ่งไม่เร็ว แต่ถ้าถามว่าประสบการณ์หรือ มุมมองของผมก็ยังถ่ายทอดไปให้น้องๆ ผู้ชายได้อยู่
ทุกวันนี้ก็ยังมีที่เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับจีบสาว หรือรายการจีบหญิง เคล็ดลับอะไรแบบนี้มันก็ยังมีอยู่ เพียงแต่ว่าเอามาใช้ไม่ได้ เหมือนเป็นจอมยุทธที่อยู่บนภูเขาแต่ไม่สามารถเอาวิทยายุทธมาซัดคนอื่นได้แล้ว เท่านั้นแหละครับ(หัวเราะ)”
ค่อนข้างจะทุ่มกับรักครั้งนี้ ?
“คือต้องบอกว่ามันจะมีผู้ชาย 2 แบบนะ แบบเปผู้หญิงเยอะๆ กับให้ความารู้แล้วก็ถ่ายทอดวิทยายุทธให้กับแฟน ตอนที่ผมคบกับนิวเมื่อ 5 ปี ที่แล้วเขายังเป็นเด็กมหาวิทยาลัยอยู่แลย ซึ่งตอนนั้นเขาก็ยังไม่ได้รวยเหมือนปัจจุบัน เราก็มองว่านิวต้องเริ่มทำธุรกิจของตัวเองแล้วนะ เราก็คอยให้คำแนะนำ ตอนนั้นเขาก็ยังไม่ได้เริ่มอะไร
พอวันเกิดเราก็เห็นเขาอยากได้รถ เราก็เอ๊ะรถอะไรเหรอที่จะเป็นรถในฝันของผู้หญิงอ๋อรถเต่า แต่เราก็ยังไม่ได้ซื้อให้ จนกระทั่งมันมีจุดเปลี่ยนตรงที่ว่า ผมแต่งรถแล้วเขาก็ต้องตามผมไป ซึ่งตอนนั้นเขายังไม่ชอบรถ ต้องไปรอร้านร้อนๆ แล้วเขาลง IG รูปหนึ่งผมจำได้เลยเป็นกองยางรถยนตร์เยอะๆ แต่เขาแต่งตัวมาก แต่ต้องมารอที่กองยางอันนี้ แล้วเขาก็บอก My Sunday นี่คือวันหยุดของเขาต้องมาอยู่ตรงนี้ เราก็ฉิบหายแล้ว ทำยังไงวะให้แฟนเรามันแฮปปี้ ก็เลยเริ่มถามเขาว่ารถในฝันเขาคืออะไร
ถ้าเขามีเขาจะเริ่มสนใจ เราก็เลยต้องให้เขามี ก็เลยกัดฟันซื้อรถให้เขา เพื่อเวลาที่เขามีรถ เขาจะได้เริ่มรู้จักดูแลรถเขา เขาจะได้รู้ว่าเวลาแอร์เสียต้องไปนั่งเฝ้าที่ร้านแอร์มันเป็นยังไงซื้อประสบการณ์ให้เขา ก็เลยต้องซื้อให้เขา ไม่ได้ป๋าหรอก อย่างซื้อนาฬิกาก็เพราะเราชอบนาฬิกา แล้วเรารู้ว่าถ้าเขาเริ่มสนใจนาฬิกาเขาจะเริ่มลงทุนเป็น เราก็เลยจำเป็นที่ต้องซื้อให้เขา”
ดูรักแฟน ขัดกับคำว่าคาสโนว่ามันติดตัวเรามาตลอดรู้สึกยังไงกับคำนี้ ?
“รู้สึกดีนะ(หัวเราะ) เพราะว่าไลฟ์สไตล์ผม ผมมีเจ้าพ่อเพลย์บอยเป็นไอดอล ไอ้เจ้าของคฤหาสอันนั้นที่มันบันนี่สาวๆ อยู่ในนั้น ในช่วงที่ผมโสดผมพยายามเดินตามรอยเท้าเขามาเลยนะ พยายามเซ็ตชีวิตเลยนะ ไปเที่ยงที่ไหนผมต้องพาสาวๆ ไปเป็น 10 คน ผมมีความสุขมาก เพราะฉะนั้นใครจะมาเรียกผมว่าคาสโนว่าก็เรื่องของเขาเพราะผมมีความสุข”
ตอนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว ?
“ตอนนี้เหลือคนเดียว เพราะเราได้อิ่มเอมกับแนวทางนั้นแล้ว ตอนนั้นเราเดินมาเรามองไม่เห็นเลยว่าใครจะรักเราจริงๆ เราก็ใช้ชีวิตสนุก สนานไปวันๆ”
สิ้นลายจบทุกอย่างแค่คนนี้แหละ ?
“ลายยังอยู่ครับ(หัวเราะ) แค่ฟันหลอ(หัวเราะ) ผมเชื่อว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยไม่มีใครหรอก ที่ไม่ชอบให้สาวๆ อยู่ใกล้เยอะๆ สวยๆ อย่าปฎิเสธตัวเองเลย”
มีปม ผิดหวังเรื่องความรักรึป่าว ?
“ใช่ ผมผิดหวังในเรื่องความรักมาตลอดชีวิต ไม่เคยประสบความสำเร็จเลยจนผมคิดว่าการเป็นคนดี สงสัยไม่มีที่อยู่ งั้นเราลองเป็นเด็กเกเรดูบ้าง เป็นแบดบอยดูบ้าง สมัยก่อนคนดีคืออะไร แฟนถามว่าอยู่ไหน อ๋ออยู่นี่ครับ เดี๋ยวไปนี่ต่อ แล้วเดี๋ยวกลับบ้านตอนนี้ ถึงแล้วแล้วจะโทรรายงานนะ นี่คือเด็กดี ผู้หญิงไม่ชอบผู้ชายแบบนี้ เพราะว่ามันน่าเบื่อ มันต้องมีเดี๋ยวไปเตะบอลกับเพื่อน คำถามต่อคือมีใครไปเตะบ้าง เดี๋ยวกลับบ้านแล้ว
งานเป็นรูทีนทำงานกลับบ้าน ทำงานกลับบ้านมันน่าเบื่อ ทำให้ผู้หญิงมีควาอยากรู้ในตัวเรา เจะไม่เบื่อเรา แต่ในตอนเด็กๆ ผมเป็นในแบบแรก เปิดหมดเลยทำงาน กลับบ้านแล้วนะ โทรคุยกันทั้งวันทั้งคืน จนเขามาบอกผมหนูขอเวลาส่วนตัวได้ไหม อ่าว นี่คือผมเผือกคุณเยอะเกินไปเหรอ ก็เลยเรียนรู้ว่าโอเคต่อไปฉันจะไม่ยุ่งอะไรกับใครแล้ว ฉันจะอยู่ของฉัน”