เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นอย่างฉับพลันบนโลกโซเชียลในช่วงบ่ายที่ผ่านมา เมื่อชาวโซเชียลตามร่วมใจปฏิบัติการถล่มเว็บไซต์กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือไอซีที จนทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้ โดยมีข้อความระบุในโลกออนไลน์ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อแสดงพลังคัดค้านการเดินหน้าระบบ Single Gateway ซึ่งไอซีทีเป็นหัวเรือใหญ่ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการศึกษาแนวทางเพื่อติดตั้งระบบดังกล่าว
ปฏิบัติการสายฟ้าแลบนี้สืบเนื่องจากที่รัฐบาลไทยมีท่าทีจะวางระบบ Single Gateway เพื่อควบคุมการจราจรข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตจากเว็บไซต์ต่างประเทศเข้ามาในไทย ซึ่งหลายฝ่ายโดยเฉพาะประชาชนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตและผู้ประกอบการไอทีรวมถึงชาวเกมเมอร์ต่างแสดงความกังวลต่อการใช้ระบบ Single Gateway ว่าจะส่งผลต่อความเร็วในการใช้อินเตอร์เน็ตที่ช้าลงเนื่องจากทางเข้า-ออกของข้อมูลถูกจำกัดเหลือเพียงช่องทางเดียวและการกลั่นกรองข้อมูลโดยหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบจนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากขึ้น แม้ทางรัฐบาลจะออกมากล่าวว่า ระบบดังกล่าวยังอยู่ในช่วงศึกษาแนวทางและความเป็นไปได้ และยืนยันว่าทำเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและไม่ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่ก็ไม่อาจลดแรงต่อต้านที่ค่อยๆ มากขึ้น เพราะหลายคนเชื่อว่า ที่สุดแล้วรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการดังกล่าวจนสำเร็จ
จนเมื่อช่วงบ่ายมีข้อความส่งต่อกันในโซเชียลก่อนจะถูกโพสต์บนเฟซบุ๊กแฟนเพจหลายกลุ่มโดยเนื้อหาระบุว่า”กลุ่มผู้ที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านระบบซิงเกิลเกตเวย์จะทำการถล่มเว็บไซต์เชิงสัญลักษณ์ด้วยวิธีการ DdoS เนื่องจากเป็นวิธีการเชิงสัญลักษณ์เพราะเป็นวิธีที่ทุกคนที่มีโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตสามารถทำได้เป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของประชาชนอยากขอเชิญมาร่วมมือกันกับประชาชนผู้รักในความยุติธรรมของกฏหมาย โดยในวันที่ 30 กันยายนหลัง 4 ทุ่มเป็นต้นไป เป้าหมายแรกของพวกเรา คือเว็บไซต์ของกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ http://www.mict.go.th/view/1/home
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีกระแสก่อตัวแนวร่วมขึ้นอย่างรวดเร็ว และประเดิมโจมตีเว็บไอซีทีตามวิธีดังกล่าว ก่อนจะถึงเวลาปฏิบัติอย่างเป็นทางการ ที่มีการนัดหมายกันไว้ จนเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. หากใครคลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ของกระทรวงไอซีที จะพบข้อความ ไม่พบหน้าที่คุณต้องการหรือหน้าดังกล่าวได้ถูกลบไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 20.24 น. ได้มีข้อความเผยแพร่ในโลกออนไลน์อีกครั้ง โดยระบุว่า
“ขอขอบคุณมวลชนผู้กล้าแกร่งทุกท่าน ณ ตอนนี้เราได้สำแดงพลังของมวลชนให้รู้ไว้แล้วว่าเสรีชนจะไม่ทนก้มหน้าฝืนจากอำนาจที่ได้มาจากกระบอกปืนเพื่อปิดหูปิดตาอิสรชนเยี่ยงเรา เราขอฝากคำนี้แก่รัฐพวกคุณไม่สามารถแม้กระทั่งจะปกป้องตัวเองได้พวกคุณไม่สามารถแม้กระทั่งจะรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของพวกคุณเองได้แล้วพวกคุณจะปกป้องพวกเราได้อย่างไร เราขอประกาศสงครามแห่งอิสรภาพสงครามเพื่อปลดปล่อยซึ่งเจตจำนงค์ของประชาชนณบัดนี้เป็นต้นไปเป้าหมายของพวกเราคือการให้รัฐบาลประกาศยกเลิกด้วยคำสั่งให้หยุดยั้งกระบวนการซิงเกิ้ลเกตเวย์ทั้งมวลทันที มิเช่นนั้นพลังของมวลชนจักสำแดงอีกครั้ง”
ทั้งนี้ยังมีข้อความระบุอีกว่า “ขอขอบคุณมวลชนผู้กล้าแกร่งทุกท่าน เป้าหมายต่อไปของเราคือเว็บไซต์ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม หรือ CAT เราขอฝากคำนี้แก่รัฐพวกคุณไม่สามารถแม้กระทั่งจะปกป้องตัวเองได้ พวกคุณไม่สามารถแม้กระทั่งจะรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของพวกคุณเองได้ แล้วพวกคุณจะปกป้องพวกเราได้อย่างไร เราจะเริ่มกันที่เวลา 3 ทุ่ม ต่อมาเมื่อประมาณ20.53น. ได้ตรวจสอบไปที่หน้าเว็บไซต์ของ กสท.โทรคมนาคม ปรากฎว่าจากเดิมจะปรากฎหน้า ประกาศก่อนเข้าสู่เว็บไซต์ กลายเป็นไม่มีข้อมูลของหน้าเว็บไซต์ดังกล่าว”
ขณะที่ น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ปลัดกระทรวงไอซีทีออกมากล่าวว่า จากการที่นัดแนะเข้าโจมตีเว็บไซต์เพื่อต่อต้านนโยบายซิงเกิลเกตเวย์นั้น จากตรวจสอบแล้วพบว่าเว็บไซต์ของกระทรวงไม่ได้ล่มเพียงแต่มีปริมาณผู้ใช้งานจำนวนมาก จำนวนทำให้การทำงานช้าลงเท่านั้น
น.อ.สมศักดิ์ยังกล่าวอีกว่า ตนขอถามกับคนที่ทำเรื่องนี้ว่าทำเพื่ออะไร กระทรวงยังไม่ได้ดำเนินการอย่างใด ทำไมไม่มาร่วมพูดคุยหารือเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมมือกัน ดีกว่าใช้วิธีชักชวนกันทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ นอกจากนี้ เมื่อเว็บไซต์ล้ช้าใช้งานไม่ได้ ก็จะส่งผลเสียต่อประชาชนที่ต้องการเข้าไปดูข้อมูลข่าวสารจากกระทรวง การใช้โซเชียลปั่นกระแสจะมีแต่ทำให้สังคมสับสน ทุกวันนี้รู้หรือไม่ว่าไอซีทีทำอะไรไปถึงไหน เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย มีอะไรก็มาคุยหารือกัน ขอให้เห็นแก่รัฐเห็นแก่สังคม เอาความรู้ความสามารถช่วยกันให้สังคมเกิดความปลอดภัยดีกว่า ทำแบบนี้เกิดประโยชน์กับสังคมตรงไหน
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. เว็บไซต์ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ก็ไม่สามารถเข้าดูได้ โดยคาดการณ์ว่า น่าจะถูกโจมตีในลักษณะเดียวกัน กับที่เกิดขึ้นกับเว็บกระทรวงไอซีทีและกสท.โทรคมนาคม จากนั้นเมื่อเวลา 22.20 เว็บไซต์ของทำเนียบรัฐบาล ไม่สามารถเข้าชมได้แล้ว จากอาการเว็บล่มด้วยสาเหตุเดียวกัน