ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในการติดตามนายอ๊อด พยุงวงศ์หรือ ยงยุทธ พบแก้ว ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องในคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร ซึ่งทางชุดสืบสวน 4 ชุด ได้เร่งติดตามจากเบาะแสต่างๆ ทางพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(โฆษก สตช.) ยืนยันว่า ตำรวจยังไม่พบตัวหรือควบคุมตัว นายอ๊อด แต่พบตัวมารดาของนายอ๊อดแล้ว ส่วนจะได้ข้อมูลอะไรนั้นกำลังตรวจสอบอยู่
โดยนายอ๊อด ไม่ได้อาศัยอยู่กับมารดานานแล้วซึ่งนางอนงค์ พยุงวงศ์ หรือ นางอนงค์ พันแก้ว มารดาของนายอ๊อด โดยนางอนงค์ ยืนยันว่านายอ๊อดเป็นบุตรชายจริ แต่ไม่ได้ติดต่อกันมานานกว่า 5 ปีแล้ว โดยก่อนขาดการติดต่อนายอ๊อดได้ส่งเงินมาให้ใช้เป็นประจำ ขณะที่การลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ้านพักของนายอ๊อดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็ยังไม่พบผู้ที่รู้จักหรือเคยพบเห็นนายอ๊อด นอกเหนือนี้ได้ตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลที่ทำคลอดนายอ๊อดด้วย ขณะนี้กำลังรอผลว่าจะได้ข้อมูลของนายอ๊อดที่เป็นประโยชน์หรือไม่และจากการตรวจสอบพบล่าสุดพบความเคลื่อนไหวของนายอ๊อด ที่ย่านมีนบุรี และหนองจอก
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของนายอ๊อตในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีข้อมูลว่าได้รับความช่วยเหลือจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งฝ่ายสืบสวนพยายามแกะรอยติดตามตัวแต่ยังไม่สามารถรวบตัวได้ พร้อมกันนี้มีการประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองรวมถึงหน่วยงานทหารที่ดูแลพื้นที่ตะเข็บชายแดนใน จังหวัดกาญจนบุรีและใกล้เคียงให้ช่วยตรวจสอบบุคคลเข้าออกไทย และประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มงวด
ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มั่นใจว่าจะสามารถจับกุม นายอ๊อด รวมทั้งผู้ต้องหาที่เหลืออีก 15 คน ได้เร็วๆนี้ เพราะตอนนี้ข้อมูลของชุดสืบสวนสอบสวนมีความชัดเจนมากขึ้น และเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดยได้ส่งชุดสืบสวนรวม 4 ทีมลงพื้นที่ตามแหล่งๆที่คาดว่าจะหลบซ่อนตัวของผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งตนเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนด้วยตัวเอง ส่วน พลตำรวจโทศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีต ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่มาเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ก็ยังอยู่ในชุดทำงานคลี่คลายคดี
ทั้งนี้ ช่วงเย็นวานนี้(2 ต.ค.)นี้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ได้เปิดเผยว่าศาลแขวงดุสิตได้อนุมัติหมายจับชายไม่ทราบชื่อ เป็นชาวต่างชาติสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนขายาวสีน้ำเงิน สวมแว่นกันแดด และสะพายกระเป๋าเป้สีดำ ตามภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าไปภายในศาลทหาร ที่สามารถบันทึกได้ในเวลา 16.25 น.-16.33 น.ในวันที่ 25 ก.ย.ซึ่งเป็นวันก่อนฝากขังนายบิลาล มูฮัมหมัด หรือ อาเดม คาราดัคและนายไมไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาคดีระเบิดราชประสงค์และท่าเรือสาทร เพียง 1 วัน ในข้อหาเข้าไปในสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีระเบิดหรือไม่ โดยขณะนี้ได้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว
