นักวิทยาศาสตร์ยืนยัน การต้มอาหารในน้ำเดือดจะช่วยลด ‘ฟอร์มาลีน’ ที่ปนเปื้อนได้ แต่ไม่สามารถกำจัดทิ้งได้ทั้งหมด
ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิทยาศาสตร์และอาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant เมื่อวานนี้ (9 พ.ย. 58) เกี่ยวกับกรณีการแชร์ข่าวจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า “(อาหารที่ปนเปื้อนฟอร์มาลีน)…เมื่อจะนำมารับประทาน ก็ต้องนำไปต้มในน้ำเดือดจนอาหารสุก หากทำเช่นนี้ สารฟอร์มาลีนที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหาร ก็จะถูกทำลายทั้งหมด และสามารถนำอาหารนั้นมารับประทานได้อย่างปลอดภัย” ซึ่งไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้องนัก
ผศ.ดร.เจษฎา กล่าวว่า ข้อความดังกล่าวนั้นมีส่วนหนึ่งที่ถูกต้องตามคำแนะนำสากล สำหรับความกังวลเกี่ยวกับฟอร์มาลีนในอาหาร ได้แก่ ควรจะนำมาแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือแช่น้ำไหนผ่านประมาณ 15 นาที ก่อนจะเทน้ำทิ้ง หรือนำไปหุงต้มที่อุณหภูมิสูงกว่า 75 องศาเซลเซียสขึ้นไป โดยการเปิดฝาหม้อไว้ด้วย เพื่อ ‘ลด’ ปริมาณฟอร์มาลีนที่ปนเปื้อนในอาหาร
แต่การต้มอาหารให้เดือดนั้น ‘ไม่ได้ทำลายฟอร์มาลีนทั้งหมด’ ได้อย่างที่บางคนเข้าใจ ซึ่ง ผศ.ดร.เจษฎา ได้ตรวจสอบกับงานวิจัยต่างๆ แล้ว พบว่า การต้มสามารถช่วยลดฟอร์มาลีนได้จริง แต่ยังคงมีตกค้างอยู่ในอาหารปริมาณหนึ่ง เนื่องจากสารดังกล่าวได้ซึมเข้าไปอยู่ตามเนื้อของอาหารแล้ว ทั้งนี้ ในความเป็นจริงควรจะรณรงค์ในการห้ามลักลอบแช่อาหารในฟอร์มาลีนเหมือนเดิมคือสิ่งที่ถูกต้อง รวมไปถึงการรณรงค์ให้ผู้บริโภคตรวจสอบอาหารได้ด้วยตนเอง น่าจะดีที่สุด
ทั้งนี้ ผศ.ดร.เจษฎา ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า การออกมาโพสต์ข้อความดังกล่าวนั้น ไม่ได้ต้องการขัดแย้งกับใคร แต่ตนต้องการออกมาระบุให้ชัดเจน เพื่อจะได้ไม่เกิดความสับสน
“การต้มอาหารในน้ำเดือด ช่วยลดฟอร์มาลินที่ปนเปื้อน แต่ไม่ได้กำจัดทิ้งทั้งหมด”สัปดาห์ก่อนมีการแชร์ข่าวจากกรมวิทยาศาสตร์ก…
Posted by Jessada Denduangboripant on 8 พฤศจิกายน 2015