คือการผ่าตัดเพื่อดูดไขมันส่วนเกิน ออกจากบริเวณที่ไม่ต้องการ โดยทั่วไป ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่สามารถ ดูดไขมัน ได้มักเป็นบริเวณท้องน้อย ต้นขาทั้งสองข้าง ก้นย้อย เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันนี้มีวิธีที่นำมาใช้และได้ผลดีกว่าการดูดไขมันในอดีต

ในสมัยก่อนการดูดไขมันค่อนข้างมีความเสี่ยงสูง ถึงแม้จะเป็นการรักษาที่เห็นผลชัดเจนตรงจุด แต่ก็อันตรายที่สุดเหมือนกัน เพราะแพทย์จะต้องใช้แรงค่อนข้างมากเพื่อทำให้ไขมันแตกออกแล้วจึงดูดออกจากร่างกาย ขั้นตอนการรักษาที่รุนแรงนี้จะทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเส้นเลือด เส้นประสาท และหลังทำก็มีอาการบวมช้ำมาก และเจ็บปวด

ส่วนในปัจจุบันบันมีเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทและได้รับความนิยมมากคือ การดูดไขมันด้วยเครื่อง เวเซอร์(vaser) และ บอดี้ไทด์ (Body tite) โดยหลักการเปลี่ยนไขมันให้อ่อนนิ่มและเหลวมากขึ้น ก่อนที่จะทำการดูดออกมา ซึ่งจะมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการดูดไขมันแบบเก่ามาก

วิธีการคือ สอดท่อเล็กๆเข้าไปในบริเวณที่จะดูด หลังจากนั้นเปิดเครื่องดูดเพื่อให้ได้ความดันที่แรงพอที่จะดูดไขมันออกมาได้ โดยทั่วไปใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 40 นาที เมื่อดูดไขมันเสร็จแพทย์จะพันแผลเอาไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมงเพื่อกันเลือดออกมาก และให้ผู้ป่วยได้

รูปทรงที่ดีหลัง การผ่าตัด

  • สิ่งสำคัญที่ ควรระวัง คือเรื่องการตรวจดูความยืดหยุ่นของผิวหนังก่อนผ่าตัด ผู้ป่วยที่ผิวหนังไม่ยืดหยุ่น หลังผ่าอาจเกิดปัญหาเรื่องผิวหนังเป็นริ้วคลื่น หรือ ผิวแตก ก็ได้
  • หลังผ่าตัด ไขมันนี้อาจกลับมาโตได้อีก การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยลดการกลับมาสะสมไขมันซ้ำได้

27541478

ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากการดูดไขมัน

ท่านต้องอย่าหวังการดูดไขมันจะช่วยให้ท่านดูรูปร่างเพรียวบาง แต่จะทำให้รูปร่างท่านดูดีขึ้น และมีความรู้สึก มั่นใจ มากขึ้น ส่วนผู้ที่จะได้รับผลดีจากการดูดไขมันควรจะไม่อ้วนผิวหนังควรมีความยืดหยุ่นดีและมีไขมันสะสมเฉพาะที่ ท่านควรมีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ มีจิตใจที่ปกติ ท่านที่มีอายุก็สามารถทำการดูดไขมันได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ ผู้ที่จะผ่าตัดถึงผลที่จะได้รับให้เข้าใจเสียก่อน

บริเวณที่สามารถดูดไขมันได้

  • ท้อง
  • สะโพก
  • ก้น
  • หลัง
  • ต้นขา
  • เข่า
  • ต้นแขน
  • คอ
  • สีข้างและหน้าอก

การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน

  • งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด หากมีการวางยาสลบ
  • งดยากลุ่มแอสไพริน (aspirin) หรือไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามิน A และ E อย่างน้อย 7 วัน เนื่องจากทำให้เลือดหยุดไหลยาก
  • งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดแอลกอฮอล์อย่างน้อย 5 วัน
  • รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงไม่มีอาการเจ็บป่วย
  • หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง

การดูแลหลังการผ่าตัด

หลังการผ่าตัด 2- 5 วันจะเปิดผ้าพันแผลและตัดไหมวันที่ 7 หลังจากนั้นท่านต้องพันผ้าในส่วนที่ดูดไขมันอีก หรือใส่เครื่องนุ่งห่มที่กระชับกับส่วนที่ได้รับการดูดไขมันไว้อีกประมาณ 1-2 เดือน บริเวณที่ดูดไขมันจะมีรอยช้ำเขียวประมาณ 1-3 อาทิตย์ ผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันจะดูลักษณะเป็นลูกคลื่นได้ และไม่เรียบ ซึ่งจะดีขึ้นภายใน 2-3 เดือน ท่านสามารถจะกลับไปทำงานได้ประมาณ5-7วัน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

การดูดไขมันก็เหมือนกับการผ่าตัดทั่วไปที่อาจมีผลแทรกซ้อนขึ้นได้ ผลแทรกซ้อนนี้เกิดขึ้นไม่บ่อย เช่นการติดเชื้อ ,มีเลือดคั่ง, ผิวหนังเป็นลูกคลื่น,รอยแผลเป็นนูนหรือบุ๋ม ,ผิวหนังมีแผล อาจจะมีผิวหนังเปลี่ยนสีได้บ้าง

 

ขอบคุณบทความจาก ศรัณย์คลินิก ,เรียบเรียงโดย Dodeden.com

เรื่องน่าสนใจ