เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 25 พ.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนลักษณะอากาศหนาวและคลื่นลมแรงฉบับที่ 4 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงได้แผ่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่า จะแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในวันนี้ ต่อจากนั้นจะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจนถึงวันที่ 29 พ.ย. ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก และอากาศจะหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงได้ 6-8 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลงไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 พ.ย. มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงจะพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังผลกระทบจากฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑณ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
วันเดียวกัน น.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา เปิดเผยว่า ศูนย์ฯออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 5 วันที่ 25 พ.ย. คลื่นลมแรงในอ่าวไทยและฝนตกหนักภาคใต้ฝั่งตะวันออก เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่ ได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว และคาดว่าแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในคืนวันที่ 25 พ.ย. และจะแผ่ลงมาส่งผลกระทบต่อสภาวะอากาศของภาคใต้ฝั่งตะวันออก
“โดยจะทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่ จ.ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาสและ จ.ยะลา จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในจังหวัดดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และปริมาณน้ำฝนสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก” น.ส.พะเยาว์กล่าว
น.ส.พะเยาว์ กล่าวต่อว่า คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ความสูงของคลื่น 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในวันที่ 26-30 พ.ย.
ด้าน นายกฤษฏา บุญราช ปลัดกระทรงมหาดไทย กล่าวว่า ตนสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด 8 จังหวัดภาคใต้ฝั่งออกและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 และสำนักงานปเองกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะในวันที่ 25-30 พ.ย. และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายโส เหมกุล ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 จ.สงขลา เปิดเผยว่า ทางศูนย์ฯเตรียมความพร้อมทุกด้าน เมื่อจังหวัดร้องขอความช่วยเหลือจะออกช่วยเหลือได้ทันท่วงที และได้ให้มีการเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมทั้ง 5 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง แต่ขณะนี้ระดับน้ำในคลองและแม่น้ำสาย
