วันนี้ (3ธ.ค.58) นายวอร์เรน ทรัสส์ รองนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียแถลงว่า ออสเตรเลียจะเพิ่มความพยายามในการค้นหาเครื่องบินเที่ยวบินที่ MH 370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ซึ่งสูญหายระหว่างออกเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มุ่งสู่กรุงปักกิ่ง พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน เมื่อเดือนมี.ค.2557 ซึ่งนับเป็นเรื่องลึกลับมืดมนที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์การบินของโลก
ปฏิบัติการค้นหาจนถึงขณะนี้กำลังดำเนินไปในบริเวณมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ ซึ่งมีความหวังกันว่า จะพบซากเครื่องบินลำดังกล่าว โดยมุ่งการค้นหาพื้นที่ก้นมหาสมุทรภายในอาณาบริเวณกว้าง 120,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งการเลือกพิกัดการค้นหาอาศัยการพิจารณาจากข้อมูลการบิน เส้นทาง และข้อมูล ที่รวบรวมได้จากเครือข่ายดาวเที่ยมทั่วโลก นอกจากนั้น จะเพิ่มเรือค้นหาจากเดิม 2 ลำเป็น 4 ลำ ซึ่งจีนจะส่งมาช่วยลำหนึ่ง การค้นหาซากเครื่องบิน ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวจีนคาดว่า น่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิ.ย. ปีหน้า
ทั้งนี้ เศษชิ้นส่วนของเครื่องบินชิ้นหนึ่งได้ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาดเกาะรียูเนียนของฝรั่งเศสเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นหลักฐานยืนยันโดยตรงครั้งแรกว่า เที่ยวบินMH370 ตกในทะเล และไม่พบร่องรอยอื่นอีกเลยนับจากนั้น
ด้านผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมการค้นหาใต้ทะเลลึกที่ผ่านมา ระบุว่า บริษัท ฟูโกร เอ็นวี ของเนเธอร์แลนด์อาจพลาดการพบซากเครื่องบินไปได้อย่างง่ายๆ เนื่องจากฟูโกร ได้ใช้เทคโนโลยี ที่ไม่เหมาะสมในการค้นหาที่ผ่านมา อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของฟูโกรยังขาดประสบการณ์ในการค้นหา ซึ่งเป็นปฏิบัติการ ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษอีกด้วย