คิดแปลกไม่เหมือนใครจริงๆ สำหรับ พลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน มีความใฝ่ฝันอยากเล่นหนังผี มาสมหวังในหนังผีวัยรุ่นโรแมนติก “รุ่นพี่” ค่าย M๓๙ กับความสามารถพิเศษได้กลิ่นวิญญาณ ถ้าหากเห็นสาวน้อยทำ จมูกฟุดฟิดโน่นนั่นนี่ก็ไม่ต้องตกใจ เป็น คาแรกเตอร์ล้วนๆ นอกงานแสดง สาวน้อย เน็ตไอดอล “สาวน้อย 250 ล้านวิว” มีความสุข กับงานเพลงที่รัก ทำเอง ลงทุนเอง “คนดังนั่งคุย” มาทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริง
ทำไมถึงตัดสินใจรับเล่น หนังแถมเป็นแนวผีด้วย
“จริงๆ อยากเล่นหนังมานานแล้ว อยากเล่นหนังผี พอค่าย M๓๙ ติดต่อมาให้เล่นหนังผี ดีใจอยากไปแคส เพราะชอบดูหนังผี และชื่นชมเล่นหนังผีเค้ากลัวจริง หนูรู้สึกว่าการแสดงแบบนั้นยากพอสมควร”
พอได้เล่นจริงๆสนุกมั้ยล่ะ
“สนุกมาก ชอบมาก ทีมงานน่ารักทุกคน ส่วนคาแรกเตอร์ภาย นอกแปลกว่าคนอื่น ชอบพูดกับตัวเองและชอบดมนั่นดมนี่ เวลาคุยด้วยจะไม่ค่อยชอบมองหน้า เหมือนคนที่คุยด้วยไม่มีตัวตนจริงๆ ด้วยเหตุได้กลิ่นวิญญาณตลอดเวลา เลยไม่ชอบสุงสิงกับใคร”
พอได้ลองเล่นยากไหม
“ไม่นะ แต่ยากเวลาเล่นกับพี่บอม พงศกร ที่เป็นรุ่นพี่ เราต้องมองทะลุเค้าตลอด เหมือนคุยคนเดียว แทนฟิวส์คนอื่นที่มองไม่เห็น”.
เป็นน้องใหม่การแสดงแอบเกร็งมั้ย
“หนังไม่ค่อยเกร็งเท่าไหร่ ก่อนถ่ายมีการเตรียมตัวค่อนข้างเยอะ เล่นละครเกร็งกว่าเยอะเลย (หัวเราะ) ยากกว่า บางทีได้บทก่อนถ่าย 4-5 วัน ต้องรีบจำ ช่วงนั้นไม่ค่อยเวิร์กช็อป ไม่เหมือนหนังเวิร์กช็อปเดือนนึง ก่อนเปิดกล้องนักแสดงสามารถจำบทได้หมด นักแสดงเล่นให้โค้ชแอ็กติ้งดูก่อน ถ่ายวันจริง โค้ชจะช่วยปรับให้”
ฉากไหน ซีนไหนที่รู้สึกยากสำหรับเรา
“ส่วนใหญ่เป็นอารมณ์กังวลก่อนที่จะถ่ายจริง เพราะหนูกลัวทำไม่ได้ มีฉากนึงยากตรงที่ว่าถ่ายนานเป็นฉากเพื่อนมาบอกลา เค้าถ่ายหลายมุมมากต้องร้องไห้ทุกแมตช์ ทุกมุมจนรู้สึกน้ำตาเริ่มไม่ไหลแล้ว”
ปกติร้องไห้ง่ายหรือ ยาก
“ถ้ามีอะไรมาสะกิดก็ร้องไห้ง่าย ครูโค้ชแอ็กติ้งบิ้วดี นึกถึงหมาตายค่ะ (หัวเราะ)” มีเก็บคาแรกเตอร์ออกมาใช้ข้างนอกบ้างมั้ย “มีเผลอไปดมโน่นนี่บ้าง แต่ตอนนี้ผ่านมาเป็นปีก็หายแล้วค่ะ”.
ช่วงนี้งานเยอะ
“นิดนึงออกงานเกือบทุกวัน มีงานคอนเสิร์ตเราก็ต้องซ้อมคอนเสิร์ต ถ่ายโฆษณา มียามาฮ่าและแลคตาซอยไปด้วย มีพวกอีเวนต์ของโฆษณา มีคอนเสิร์ตของพี่เบิร์ด ที่ฮ่องกงและบิ๊กเมาเท่น มีงาน MV เพลงของตัวด้วยที่เต้นๆ”
กับคอนเสิร์ตพี่เบิร์ดที่เป็นหนึ่งในแขกรับเชิญรู้สึกยังไงที่เค้าจิ้มว่าจะต้องเป็นพลอยชมพู
“ดีใจค่ะ เคยเห็นภาพคอนเสิร์ตพี่เบิร์ด ยังแอบคิดเลยว่าสักวันเราจะได้ขึ้นไหมนะ”
วันที่ต้องเจอหน้าพี่เบิร์ดตัวเป็นๆ เป็นยังไงเขินมากน้อยแค่ไหน
“ก็เกร็งๆนิดนึงค่ะ (หัวเราะ) เป็นซุป’ตาร์ของประเทศ”
อายุของพี่เบิร์ดเทียบกับพลอยถือว่าเป็นลุงเชียวนะ พลอยชมพูหัวเราะเสียงดัง
“ถึงแม้ความเป็นจริงพี่เบิร์ดอายุมากกว่าแม่หนู เท่ากับคุณพ่อหนู แต่หนูเรียกพี่อยู่ค่ะ (หัวเราะ)”
ครั้งแรกเจอหน้าพี่เบิร์ดเกร็งขนาดไหน
“เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ด้วย ได้ขึ้นกับพี่เบิร์ด พี่โจอี้ พี่ใหม่ ดาวิกา มาตัง พาราด็อกซ์เบอร์ใหญ่ๆทั้งนั้นเลย ก็ต้องเตรียมตัว”.
กับงานเอ็มวีที่ทำเอง ลงทุนเอง
“เป็นเพลงสากลที่ทำเอง 5 เพลง ค่ายก็อนุญาตให้ทำเป็นแนวอินดี้ เป็นการทำกับโปรดิวเซอร์ที่อเมริกา ติดต่อคุยกันเลยได้ทำ EP Genesis ทำเองหมด เลยตั้งแต่โปรดักชั่น เอ็มวี หาคนช่วยถ่ายทำ การแต่งตัว สถานที่ด้วย ออกเองอะไรเองหมด”
โอกาสข้างหน้าโกอินเตอร์แน่นอน
“ใช่ค่ะ กำลังคุยงานกับหลายๆประเทศอยู่ ส่วนมากรู้จักจากยูทูบ”
ทุกวันนี้ถือว่าทำงานเยอะเกินไปสำหรับวัย ของเราตอนนี้
“ตอบยากค่ะ (หัวเราะ) ก็ไม่ว่างเลย รู้สึกสนุกกับงาน มีวุ่นๆ ทำงานไหนก่อน เยอะเกิน ก็มีแอบขี้เกียจไม่รู้ทำไรก่อนดี”.
การเรียนตอนนี้ เรียนเป็นยังไงบ้าง
“เรื่องเรียนตอนนี้จบ ม.3 เกือบๆ 2 ปี เก็บหน่วยกิต มสธ. เอกอังกฤษ เก็บไปเรื่อยๆ รอสอบเทียบตอนอายุ 18 เอาไว้สมัครเรียนมหาวิทยาลัยก็จะ เอาหน่วยกิตที่เก็บไปโอนเข้าไป หนูเรียน มสธ.ตั้งแต่อายุ 11 ขวบแล้วค่ะ”
ทำไม่เลือกเรียนโรงเรียนปกติจะได้มีเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่เลือกจะเรียนเอง
“มันสะดวกในการจัดบริหารเวลาด้วย เรียนเวลาไหน ตอนไหน ก็ได้ เราจะได้เน้นเรียนในสิ่งที่เราจะใช้ในอนาคตด้วย หนูจะใช้ด้านภาษาและดนตรี ศิลปะจะเน้นไปทางนั้น วิชาอื่นก็ไม่ได้ทิ้ง”
บางคนชอบบรรยากาศในห้องเรียนมากกว่า
“หนูเป็นคนไม่ชอบบรรยากาศนั่งฟังเฉยๆ ชอบปฏิบัติมากกว่า”
ตั้งเป้าเรียนสูงขนาดไหน
“ไม่ได้ตั้งเป้าต้องจบโท ขอแค่ จบปริญญาตรีก็พอ คนที่เรียนสูงก็ไม่ได้หมายความว่าเก่งเสมอไป หนูเห็นหลายๆ คนจบ ป.6-ม.3 แต่เค้าเป็นถึงเจ้าของธุรกิจเลย การเรียนจบสูงไม่ได้การันตีเราจะได้งานดีเสมอไป”.
ทำงานมาเยอะๆ เงินที่ได้ใครเก็บ
“คุณแม่ค่ะ จริงๆได้เงินมาไม่ได้ใช้ส่วนตัวก็เอาไปลงเอ็มวีหมด”
แม่ให้ค่า ขนมเยอะมั้ย
“ไม่ได้ให้แต่หนูอยากได้อะไรก็บอกคุณแม่”
ไม่ได้จำกัดวงเงินแต่ไม่ได้สิทธิ์ถือวงเงิน
“ประมาณนั้น ค่ะ (หัวเราะ)”
อยากรู้ เงินในกระเป๋าสตางค์ มีเงินเท่าไหร่
“มีอยู่ 40 บาทค่ะ (หัวเราะ) มากสุดสักห้าร้อย พันนึงที่เคยติด กระเป๋า มีเท่าไหร่ใช้หมด คือเป็นคนหาเงินเก่งแต่ก็ใช้เงินเก่งด้วย”.
สวย เก่ง ขนาดนี้ มีหนุ่มๆ กล้าเข้ามาจีบไหม
“ไม่มีเลยค่ะ ไม่ได้สนใจอะไรตรงนี้ไม่มีเวลาด้วย”
จริงๆแม่ห้ามมีแฟนรึเปล่า
“แม่ไม่อยากให้มีแฟน หนูก็ไม่อยากมีเหมือนกัน เห็นจากคนรอบข้าง ถ้าหนูทำงานแบบนี้ หากมีแฟนคงไม่มีผลดีกับตัวหนู บางคน มีแฟนแล้วปัญหาเยอะเชียว รู้สึกอยู่แบบนี้นานๆได้จะดีมาก อยู่เป็นโสดนาน อายุ 30 ค่อยคิด จริงๆหนูอยาก ประสบความสำเร็จในชีวิตก่อน”
สเปกล่ะ
“ไม่มีค่ะ (หัวเราะร่วน) ความรักตอนนี้สำหรับหนูไกลตัวมาก”
ที่ไม่อยากมีแฟนเพราะกลัวมีความรักจะส่งผลกระทบกับงานหรือเปล่า
“ประมาณนั้นเลยค่ะ เรามี 100% แบ่งไปยังไง ถ้ามีแฟนแบ่งไปเยอะก็ไม่ดี สู้ตอนนี้ เราใส่เต็มร้อยให้กับงานเลยดีกว่า”
บางครั้งการมีความรักก็ทำให้เรามีความสุขกับงานก็มีเยอะนะ
“ไม่จำเป็นต้อง เป็นแฟนให้กำลัง จะเป็นเพื่อนหรือครอบครัวได้หมดค่ะ”.