ทนายที่นครศรีธรรมราช แจ้งตำรวจ หลังนำเงินไปเข้าบัญชีธนาคารแล้วพนักงานตรวจพบแบงก์ 1000 บาทปลอม 1 ใบ พบทำได้เหมือนจริงมากๆ ชนิดที่เครื่องตรวจนับธนบัตรยังแยกไม่ออก เตือนประชาชนระมัดระวัง…
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช นายอครพล หนูทวี อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/88 ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช อาชีพทนายความ และเป็นเจ้าของสถานตรวจสภาพรถเอกชน ให้บริการรับจ่ายภาษี ทำ พ.ร.บ. ตั้งอยู่เลขที่ 4/5 ถนนอ้อมค่าย หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้นำบันทึกแจ้งความเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เพื่อแจ้งเตือนไปถึงประชาชนให้ระมัดระวังธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทปลอมที่กำลังแพร่ระบาดเข้ามาในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช
ทั้งนี้ นายอครพล กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนได้นำเงินสดกว่า 100,000 บาทไปเข้าบัญชีธนาคาร โดยพนักงานตรวจสอบธนบัตรด้วยเครื่องตรวจนับ และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ปรากฏว่าเครื่องตรวจผ่านหมดทุกฉบับ แต่พนักงานได้ตรวจสอบด้วยสายตาซ้ำอีกครั้ง และพบธนบัตรฉบับละ 1000 บาทปลอมจำนวน 1 ฉบับ โดยพนักงานระบุว่าธนบัตรฉบับละ 1000 บาทปลอมกำลังแพร่ระบาดในหลายจังหวัดของภาคใต้ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศเตือนให้ระมัดระวัง และพยายามสอบสวนติดตามจับกุมแก๊งปลอมธนบัตร จึงขอให้ตนไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อให้สอบสวนติดตามจับกุมคนร้าย หากตนไม่แจ้งความ ทางธนาคารจะแจ้งความดำเนินคดีกับตน
ดังนั้น เมื่อเวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมาจึงนำธนบัตรปลอมฉบับละ 1000 บาทฉบับดังกล่าวไปแจ้งความกับ ร.ต.ท.กฤตภพ ไทยฤทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อให้สอบสวนสืบสวนดำเนินคดีกับคนร้าย
“สำหรับธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาทฉบับที่พบ ปลอมได้เหมือนของจริงมาก ชนิดที่เครื่องตรวจของธนาคารตรวจไม่พบ แต่ที่ตรวจพบเพราะพนักงานมีประสบการณ์และทำการตรวจซ้ำด้วยสายตา ซึ่งคนทั่ว ไปยากที่จะสังเกตได้ว่าเป็นของปลอม โดยกระดาษที่ใช้พิมพ์ เป็นกระดาษคุณภาพเดียวกับของจริง รายละเอียดต่างๆ เหมือนกับของจริงมาก จะมีผิดไปจากของจริงนิดเดียวคือปีกครุฑที่ทับด้วยแถบสีเงินจะหายไป โดยฉบับที่พบหมวด 6A 4019213 ยอมรับว่ามันปลอมได้เหมือนของจริง 99 เปอร์เซ็นต์ทำให้ยากที่ประชาชนทั่วไปจะตรวจสอบได้ว่าเป็นของปลอม”
นายอครพล กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้มีการพบธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีและ จ.พังงา แต่ในวันนี้มาโผล่ใน จ.นครศรีธรรมราช แล้ว และเชื่อว่าจะต้องมีจำนวนมากอย่างแน่นอน นับเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ตกต่ำ สร้างความเดือดร้อนให้กับสุจริตชนเป็นอย่างมาก
แต่จนถึงขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายปลอมธนบัตรมาดำเนินคดีได้ ตนจึงขอให้สื่อมวลชนช่วยประกาศเตือนให้ประชาชนทุกคนระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษและหากมีข้อมูลเบาะแสของแก๊งคนร้าย ขอให้แจ้งทางธนาคารแห่งประทศไทยและเจ้าหน้าที่ตำรวจในละแต่ละพื้นที่ เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี.
