“ก็เสียใจตอนที่ออกมาแรกๆ แต่ตอนนี้โฟกัสว่าจะทำอะไรต่อไปในอนาคต”
เจสซี่-กิระนา จัสมิน สาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษ วัยย่าง 17 ว่าถึงความรู้สึกหลังถูกคัดออกจาก เดอะเฟซ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2 ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ 17.25 น. ทางช่อง 3 รายการซึ่งขึ้นชื่อเรื่อง “ความดราม่า” เพราะมักมีฉากปะทะคารมของ “เมนเทอร์” ลูกเกด-เมทินี กิ่งโพยม, บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ และ คริส หอวัง รวมถึงผู้เข้าแข่งขันมาให้ชม
ยิ่งสัปดาห์ล่าสุด ยิ่งดราม่ามาก ด้วยเจสซี่เกิดลนลานในแคมเปญถ่ายแบบใต้น้ำจนงานออกมาไม่ดี ทำให้เมนเทอร์คริส ผู้เป็นหัวหน้าทีมเลือกส่งเข้าห้องดำ แล้วก็ถูกเมนเทอร์ผู้ชนะเกมนั้นอย่างลูกเกดส่งกลับบ้านไปแบบเหนือความคาดหมาย เพราะสำหรับหลายคน เธอนี่แหละ “ตัวเต็ง”
“จริงๆ เจสซี่ไม่ได้ตกใจนะ เข้าใจว่าเป็นเกม มีแพ้ มีชนะ มีเดอะเฟซฯ ได้คนเดียว แต่ไม่ว่าออกวีกไหนก็มีความสุขมาก เพราะเดอะเฟซฯ เปิดโอกาสเยอะมาก ได้ทำหลายอย่าง ต้องขอบคุณ คุณเต้ (ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก-ผู้จัด) ขอบคุณพี่คริส”
ก่อนจะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการมาประกวดที่สารภาพเลยว่า “ไม่ได้อยากเป็นนางแบบ ความฝันแต่เด็กอยากเป็นนักแสดง ชอบดูละคร ดูหนังฮอลลีวู้ด” แล้วก็ดันเข้าทางกับการเป็นเด็กกิจกรรมของเธอ ที่มีความสามารถพิเศษทั้งเต้นบัลเลต์ เต้นแจ๊ซ เต้นฮิพฮอพ ร้องเพลง แถมเป็นนักกีฬาว่ายน้ำอีกต่างหาก
“เจสซี่ชอบทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น ชอบไปเรียน ต้องมีกิจกรรมทำตลอด ไม่ชอบอยู่นิ่ง สนุกดี”
“แต่จริงๆ เรียนบัลเลต์ตั้งแต่ 5 ขวบ เป็นเพราะพ่อสนับสนุน พ่อพาไปตลอดทั้งที่ตอนนั้นไม่อยากไป ตอนนี้ต้องขอบคุณพ่อที่บอกให้ไป ไม่งั้นเต้นไม่ได้ ส่วนแจ๊ซ ฮิพฮอพ แม่อยากให้เรียน อยากให้เป็นเด็กที่ทำได้ทุกอย่าง”
“การร้องเพลงนี่ไม่เคยได้เรียน แต่ชอบร้องกับน้องที่บ้าน ตอนประกวดเดอะเฟซฯ ก็ร้องกับพี่ กวาง (วรรณปิยะ ออมสินนพกุล ลูกทีมคริสอีกคน) พี่กวางบอกยูเสียงดีเลยคุยกับแม่ แล้วก็เริ่มลงวิดีโอร้องเพลงจริงจังในอินสตาแกรม ฝึกร้องเองที่บ้าน”
และด้วยความที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง กล้าพูด กล้าแสดงออก เวลาอยู่ในรายการเลยมักจะโดนติว่า “พลังงานเยอะเกินไป” ซึ่งเจ้าตัวเผย “ตอนนี้ก็ปรับแล้ว”
“โดนว่ามาก็เข้าใจ ว่าเอนเนอร์จีเยอะเกิน เจสซี่เป็นเด็กเอนเนอร์จีเยอะอยู่แล้ว เวลาทำอะไรอยากมีความสุขกับมัน อยากทำทุกอย่างให้เต็มที่”
ส่วนเรื่อง “มั่นใจเกินไป”, “บุคลิกดูแรงๆ” และลูกเกดเคยออกปากเตือนเรื่อง “สัมมาคารวะ” นั้น เจ้าตัวแจงว่า
“เจสซี่ไม่ได้เป็นคนที่แรงมาก ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น แค่เป็นเด็กที่แฮปปี้ มีความสุขตอนแข่งขัน เป็นคนตลก ที่สำคัญ เจสซี่เคารพผู้ใหญ่ทุกคน เคยดูพี่เกดตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว ก็เห็นพี่เกดสอน แม่เจสซี่ ครอบครัวเจสซี่ก็ชอบพี่เกด แม่ก็สอน พี่ในทีมก็สอน แต่ก่อนอาจจะยังไม่รู้อะไรมาก แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว”
นอกจากปรับเรื่องบุคลิก ตอนนี้ไม่คล่องภาษาไทย ก็ไปเรียนเพิ่ม รวมถึงเรียนการแสดงและพัฒนาความสามารถที่มีอยู่เดิมให้เก่งขึ้น เพื่อรองรับงานที่จะตามมาในอนาคต
โดยหลังออกจากรายการก็มีติดต่อมาบ้างแล้ว ทั้งเครื่องสำอางเมย์เบลลีน นิวยอร์ก ที่บอกเองว่ากำลังจะมีผลงานร่วมกัน รวมถึง กันตนา ที่ส่งสัญญาการเป็นนักแสดงในสังกัดมาให้พิจารณา โดยเธออยู่ระหว่างปรึกษากับแม่และผู้จัดการ
“เป้าหมายของเจสซี่ในชีวิตคืออยากมีความสุข อยากให้การงานอยู่ได้นานในวงการ อยากมีผลงานที่ดี ก็หวังว่าอนาคตจะมีงาน ที่โฟกัสเรื่องการเรียนภาษาไทย ก็เพราะอยากเล่นละครได้ดีกว่านี้”
ครั้งแรกก็โดนตา ครบเครื่องจนเมนเทอร์ทั้งสามชวนเข้าทีม แต่เจ้าตัวกลับเลือกคริส ซึ่งนั่นทำให้คนปรามาสว่าเป็นการเลือกที่ “ผิด” เพราะถ้าเลือกบี หรือลูกเกดตำแหน่งเดอะเฟซฯ คงอยู่ใกล้แค่เอื้อม
“เจสซี่ไม่ได้คิดลึกถึงขนาดนั้นค่ะ” เธอตอบ
“ตอนเลือกพี่คริสก็ติดตามผลงานพี่คริสมาตั้งแต่แรก ชอบพี่เขามาก ไม่ได้คิดว่าอยู่ทีมอื่นจะอยู่ลึกกว่า เพราะเจสซี่ไม่ได้โฟกัสแต่เดอะเฟซฯ แต่ดูอนาคตของเราด้วยซึ่งพี่คริสก็ช่วยมาก แนะนำคนให้เยอะ เปิดโอกาสให้เยอะมาก ช่วยเราในชีวิตจริงด้วย”
ถึงอย่างนั้นก็ยืนยันว่า “ไม่ใช่ลูกรักของคริส” อย่างใครค่อนขอด
“จริงๆ พี่คริสรักเด็กทุกคนเท่ากันหมด นัดไปกินข้าว ไปซ้อมก็ไปด้วยกันหมด ไม่มีใครเป็นเด็กคนโปรด เป็นเมนเทอร์ที่แฟร์มาก แต่ภาพที่เห็นก็ต้องแล้วแต่ทางรายการตัดมาออนแอร์”
ส่วนที่ว่าคริสไม่เคยดุ มีแต่อวยเด็กในทีมเจสซี่แจง “พี่คริสไม่ค่อยอยากว่าเรามาก แต่ก็เคยโดนดุ ทุกคนเคยโดนเวลาไปซ้อมกันนอกรายการที่บ้านพี่คริส พี่คริสดุมาก สอนมากอยู่แล้ว แต่พอมาอยู่ในรายการเจสซี่อยู่กับพี่กวาง 2 คน พี่คริสกลัวเราเสียความมั่นใจ ถ้าโดนดุมากอาจนอยด์”
ดังนั้น ต่อให้ออกจากรายการมาแล้ว แต่สาวน้อยก็อยากให้แฟนๆ ติดตามเดอะเฟซฯ กันต่อ เพราะ “พี่กวางของเจสซี่ยังอยู่ข้างใน ยังไงเจสซี่ก็อยู่ทีมคริส อยากให้เชียร์ด้วย อยากให้รอดูว่าใครจะเป็นเดอะเฟซฯ”
ขณะเดียวกัน “ก็อยากให้เชียร์ทีมอื่นๆ ด้วย” เพราะแม้ภาพที่เห็นในจอจะฟาดฟันกันขนาดไหน ทว่า “แบบที่พี่คริสบอก มันคือเกมหลังแข่งเสร็จทุกคนโอเค เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วทั้ง 15 คน ดูเหมือนทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่มีอะไร ทุกคนในรายการรักกัน อย่างเจสซี่ก็สนิทกับ พี่ติช่า (กันติชา ชุมมะ-ลูกทีมบี) เพราะเป็นลูกครึ่งเหมือนกัน เจสซี่กับ พี่จีน่า (วิรายา ภัทรโชคชัย-ลูกทีมลูกเกด) ก็เป็นเพื่อนกัน”
“และถึงจะไม่มี “สคริปต์” แต่รายการตัดมาได้หลายแบบ เพราะเป็นเกม เป็นทีวีโชว์ก็ต้องมีดราม่านิดๆ ให้คนสนใจซึ่ง เจสซี่ก็อยากให้ทุกคนมารู้จักเจสซี่แบบที่เราเป็น ที่พี่ๆ เดอะเฟซฯ พี่ๆ ทีมงานรู้จัก”
อย่างไรก็ตาม สาวสวยบอกด้วยว่าถ้าย้อนเวลากลับไป ไม่ว่าอย่างไรก็ยังจะเลือกคริสเป็นเมนเทอร์เช่นเดิมแน่นอน
“เพราะพี่คริสไม่ใช่แค่เมนเทอร์ในรายการแต่ช่วยในชีวิตจริงด้วยพี่คริสบอกเสมอว่ามันสำคัญกว่าว่าเราจะทำอะไรในอนาคตไม่ว่าจะเป็นเดอะเฟซฯหรือไม่ไม่ใช่รายการเลิกแล้วก็จบไป เรายังเป็นทีมคริสด้วยกันตลอดไป”
เป็นทีมคริสที่ต่อให้ไม่ได้ส่งเธอเป็นเดอะเฟซฯ คนที่ 2 ของประเทศไทย แต่ก็ทำให้ใครต่อใครรู้จัก “เจสซี่”