วันนี้ (26ม.ค.59) องค์การอนามัยโลก (WHO)ออกแถลงการณ์ว่า ไวรัสซิกาที่มียุงลายบ้านเป็นพาหะ อาจจะแพร่ระบาดไปได้ทุกประเทศในทวีปอเมริกา ยกเว้นประเทศแคนาดาและชิลี และยังไม่มีรายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีผู้หญิงคนหนึ่งล้มป่วยด้วยไวรัสซิกาในบราซิล แต่ไปคลอดลูกที่มีสมองได้รับอันตรายในรัฐฮาวายก็ตาม
กระทรวงสาธารณสุขของบราซิล แถลงเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ยืนยันว่า ไวรัสซิกาเกี่ยวโยงกับอาการผิดรูปของทารกในครรภ์ หรือที่เรียกว่า ภาวะศีรษะเล็กผิดปกติ ซึ่งทารกที่คลอดออกมาจะมีสมองเล็กกว่าปกติ ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขบราซิลได้รับรายงาน สงสัยกรณีเด็กทารกเกิดมามีศีรษะเล็ก รวมทั้งสิ้น 3,893 รายแล้ว ตัวเลขนี้เพิ่มสูงขึ้นถึง 30 เท่าในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2553
แถลงการณ์ขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ไวรัสซิกาแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็วในหลายประเทศแล้วนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2558 เป็นต้นมา สาเหตุก็เพราะไม่มีภูมิคุ้มกันในหมู่ประชาชน และการที่มียุงลายเป็นพาหะ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานว่า ไวรัสซิกาแพร่ระบาดไปถึงเด็กทารกผ่านทางน้ำนมจากแม่องค์การอนามัยโลกยังได้แจ้งเตือนไปถึงคุณแม่ตั้งครรภ์เรื่องการเดินทางไปยังประเทศที่พบการแพร่ระบาดของไวรัสซิกา ขอให้ปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการแพทย์ทั้งก่อนการเดินทางและหลังจากเดินทางกลับ
ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมาไวรัสซิกาเคยแพร่ระบาดในบางพื้นที่ของทวีปแอฟริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะในเขตมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ก็ไม่รุนแรงมากนัก จึงมีข้อมูลในทางวิชาการน้อยมาก และก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่า ทำไมไวรัสซิกาจึงทำให้เกิดภาวะศีรษะเล็กในทารกในประเทศบราซิล
