ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีข่าวว่านิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ได้โพสต์เล่าเรื่องราวการขโมยแมวคุณยายข้างบ้าน แล้วนำมาฆ่าด้วยการฉีดยาพิษ เลาะเอากระดูกส่งอาจารย์ และโกหกยายข้างบ้านว่าแมวของยายติดสัดไปกับตัวผู้แล้วจะไม่กลับมา รวมถึง ฆ่ากระต่ายอย่างโหดเหี้ยมทารุณ ด้วยวิธีการดึงคอออกจากลำตัวจนคอขาด แต่หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียล นิสิตคนดังกล่าวออกมาแก้ต่างว่าโพสต์ล้อเล่นกับเพื่อนเท่านั้น โดยแมวที่นำกระดูกมาตายเพราะถูกรถชน ตนจึงเก็บซากมาเลาะกระดูก แต่ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในขณะนี้ โดยแฟนเพจ “A call for Animal Rights” Walk Rally” ได้ออกมาเเฉภาพ และพฤติกรรมของนิสิตคนดังกล่าว ซึ่งเป็นภาพที่นิสิตชายกำลังถือโครงกระดูกของแมว ที่เป็นรายงานส่งอาจารย์ พร้อมอธิบายข้อความใต้รูปว่า
“เรียนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, รศ. … ผู้สอนวิชา museum collection และรองหัวหน้าภาค อาจารย์… โปรดตรวจสอบนิสิตภาควิชากีฏวิทยา (เรียนเกี่ยวกับแมลง) ผู้นี้ ซึ่งได้สารภาพการขโมยแมวยายข้างบ้านมา โดยโกหกคุณยายว่าแมวติดสัด แล้วฆ่ามันด้วยยาพิษ ไม่ได้เพื่อการศึกษา แต่ทำเพื่องานอดิเรก โครงกระดูกโชว์ในพิพิธภัณฑ์ ทั้งยังมีการโพสต์รูปซากกระต่าย พร้อมสารภาพในคอมเม้นต์ว่าฆ่าด้วยการ ดึงหัวออกจากคอ เพื่อทำงานอดิเรกนี้อีกเช่นกัน ที่สำคัญมีการคอมเม้นต์พูดคุยกับเพื่อนอย่างไม่มีความสำนึกผิด ทั้งยังแสดงความภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป”
ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังจากข้อความ และภาพดังกล่าว ถูกแชร์ว่อนโซเชียล ทางผู้บริหารคณะเกษตร และคณะวิทยาศาสตร์ มก.ได้เรียกนิสิตชายคนดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริงแล้วในช่วงบ่ายวันที่ 8 กุมภาพันธ์
นางสุภา หารหนองบัว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มก. กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนิสิต โดยพบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งนิสิตได้ลงเรียนวิชา Skeleton Collection ขณะเรียนอยู่ปี 1 จากภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจารย์ประจำภาควิชาดังกล่าวได้สอนเรื่องจริยธรรมในการนำสัตว์มามาทดลอง อาจารย์ได้ให้ซากหนูแก่นิสิตในแต่ละกลุ่มเพื่อมาทำโครงกระดูก แต่กลุ่มของนิสิตดังกล่าวได้ทำซากหนูเสียหาย จึงต้องหาซากสัตว์ตัวอื่นมาทดแทน โดยขอใช้ซากแมวที่ตายไปแล้ว 2 วัน อาจารย์อนุญาต แต่ด้วยความคึกคะนองและชอบอำเพื่อน จึงได้นำรูปซากแมวไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าตนเป็นคนฆ่า นอกจากนี้ที่นิสิตได้โพสต์รูปกระต่าย 6 ตัว และระบุว่าได้ฆ่าด้วยการหักคอนั้น เมื่อคณะกรรมการสอบถาม ได้ความจริงว่า กระต่ายทั้ง 6 ตัวเป็นของคนข้างบ้านโดนสุนัขกัดตาย นิสิตจึงขอซากไว้เพื่อนำมาทำโครงกระดูก
“คณะกรรมการที่สอบสวน ได้ว่ากล่าวตักเตือนนิสิตและแนะนำสิ่งที่ควรทำแล้ว ส่วนระเบียบการลงโทษของ มก.เบื้องต้นได้ว่ากล่าวตักเตือนและดูแลนิสิตกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะนิสิตสำนึกผิดและแสดงความรู้สึกเสียใจขอโทษต่อหน้าสื่อไปแล้ว อย่างไรก็ตามอยากเตือนนิสิตทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังในการโพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะบางสิ่งที่โพสต์ไปอาจกระทบกระเทือนจิตใจของผู้เสพสื่อ และการโพสต์ใดๆ ต้องรับผิดชอบในการโพสต์และรับผิดชอบสังคมด้วย” นางสุภา กล่าว
