การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ได้ออกแถลงการณ์รายงานข้อเท็จจริงดังกล่าว ระบุว่า ตามที่มีข่าวเผยแพร่ส่งต่อตามสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ไม่ว่าจะเป็น FacebookYoutube Line ฯลฯ กรณีรถเบนซ์สีดำ หมายเลขทะเบียน ษง. 3333 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคันเดียวกับคันที่เกิดอุบัติเหตุชนกับรถฟอร์ด บริเวณถนนพหลโยธินขาออก จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย
โดยก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ประมาณ 1 ชั่วโมง รถเบนซ์คันนี้ได้ขับรถฝ่าด่าน ชนไม้กั้นช่องเก็บค่าผ่านทางของด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพระรามที่สี่ 2 ของ กทพ. ดังข่าวที่ปรากฏตามสื่อข้างต้นนั้น
กทพ. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 10.48 น. ได้มีรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ษง.3333 กรุงเทพมหานคร เข้าใช้ทางพิเศษ มุ่งหน้าดินแดง โดยเข้าทางด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพระรามที่สี่ 2 ช่องเก็บค่าผ่านทางพิเศษอัตโนมัติ ช่องที่ 2
ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวมีบัตร Easy Pass แต่ผู้ขับขี่ไม่ได้ติดบัตร Easy Pass ไว้ที่หน้ากระจกรถยนต์ เหมือนกับผู้ใช้บัตร Easy Pass โดยทั่วไป หากแต่ใช้วิธีลดกระจกแล้วใช้มือถือบัตร Easy Pass ออกมาโบกนอกตัวรถ ในจังหวะที่ขับเลยจุดอ่านสัญญาณของบัตร ทำให้ระบบไม่สามารถทำการตัดเงินค่าผ่านทาง
ส่งผลให้ไม้กั้นไม่เปิด ผู้ขับขี่จึงได้ขับรถชนไม้กั้นและได้ขับรถต่อไปโดยไม่ได้ลงมาตรวจสอบความเสียหายของตัวรถและของไม้กั้น โดยจากการตรวจสอบของ กทพ. พบว่าไม้กั้นไม่เสียหาย
สำหรับค่าผ่านทางพิเศษในบัตร Easy Pass นั้น พนักงานประจำด่านฯ ได้จัดทำรายงาน และได้ส่งหลักฐานข้อมูลเพื่อเรียกร้องค่าผ่านทาง จำนวน 50 บาท จากผู้ใช้บัตร ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติงานตามปกติ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ชื่อเจ้าของบัตร Easy Pass ของรถยนต์คันดังกล่าวคือ บริษัท เลนโซ่ ไดเร็ค จำกัด”