เนื้อหาโดย Dodeden.com
นายหนูกาญจน์ จำปานาค หนุ่มใหญ่พิการสายตาวัย 51 ปี ได้ออกมาวิงวอนผ่านสื่อช่วยกันตามหาน้องเป๊ปซี่ ลูกสาววัย 14 ปี ที่หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม โดยทางด้านนายหนูกาญจน์ได้เล่าว่า ตนนั้นเป็นคนพิการตาบอดตั้งแต่เกิด อาศัยการเลี้ยงชีพด้วยการตระเวนเดินร้องเพลงไปตามผับและร้านอาหารย่านพัทยา โดยมีลูกสาวคอยติดตามเป็นเสมือนดวงตาให้กับตนเอง
แต่แล้ววันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมานั้นตนได้ให้ลูกสาวออกไปซื้อข้าวกลางวันมาให้ แต่ลูกสาวกลับหายไปนานอีกทั้งกลับมาถึงไม่ได้มีอาหารมาด้วยแต่อย่างใด จึงได้ทำการดุด่าสั่งสอนเพราะเชื่อว่าลูกสาวคงไปเถลไถล จึงน่าจะเป็นเหตุให้ลูกสาวน้อยใจเก็บเสื้อผ้าและหนีออกจากห้องพักโดยที่ไม่บอกอะไรตนสักคำ ตนจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา โดยนางหนูกาญจน์ได้บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยได้ยินลูกสาวคุยโทรศัพท์กับชายคนหนึ่ง ที่อ้างว่าทำงานในพัทยา และเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา และรู้จักผ่านทางเฟสบุ๊ค ตนก็พยายามตักเตือนมาตลอด แต่ก็ไม่เป็นผล
แต่แล้วก็มีผู้ได้พบข้อความหนึ่งในเฟสบุ๊คที่คาดว่าอาจจะเป็นน้องเป๊ปซี่ โพสต์สเตตัสตัดพ้อลงในเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า … “ไปอยู่ด้วยแล้วก็มีแต่บ่นแต่ด่าแต่ว่า ทีหลังก็เป็นพ่อที่ดีของลูกหน่อยซิ เกิดมาเป็นคนอย่าเอาแต่ใจ คือว่าหนูไม่ชอบนะ ถ้าจะให้กลับก็ไม่ต้องให้หนูพาไปร้องเพลงอีก หนูโตเป็นสาวแล้วก็อายคนเขาเป็นนะ ไม่ใช่ไม่อาย พ่อมองไม่เห็นก็จริงอยู่ แต่ว่าพ่อไม่อาย หนูอายแทน ถ้าจะให้หนูกลับหนูไม่กลับหรอก หนูไปเรียนดีกว่านะ อย่ามาหาหนูขี้เกียจนะ หนูอายเฉย ๆ”
ทำให้มีผู้เอาข้อความดังกล่าวไปแชร์กันต่อในเพจเฟสบุ๊คของคนเมืองพัทยา เพื่อสอบถามว่าเป็นเด็กที่กำลังเป็นข่าวอยู่หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามหลายคนที่ได้เห็นข้อความ ต่างรู้สึกสลดใจกับสิ่งที่เด็กสาวคนนี้คิด เพราะว่าอย่างไร ผู้เป็นพ่อก็คือผู้มีพระคุณ เป็นอย่างไรก็ควรเลี้ยงดู
ล่าสุดวันที่ 2 เมษายนนั้น ได้มีพลเมืองดีแจ้งว่าพบเด็กคล้ายน้องเป๊ปซี่อยู่ที่พัทยาได้ จึงได้รุดเดินทางไปตรวจสอบ ก่อนจะเจอเด็กหญิงคนดังกล่าว และยอมรับว่าเป็นน้องเป๊ปซี่จริงๆ ทางด้านเป๊ปซี่ก็ได้เล่าว่า สาเหตุที่ต้องหนีออกจากห้องพักนั้น เพราะถูกพ่อดุด่าอย่างแรง จึงเกิดอาการไม่พอใจ เลบเก็บเสื้อผ้าหนีมาอยู่กับเพื่อนชายคนสนิทอายุ 17 ปี ประกอบกับตนคิดว่าตนโตแล้ว รู้สึกอับอายที่ต้องตระเวนพาพ่อไปร้องเพลงตามที่ต่างๆ
เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานไปหาแม่ของน้องเป๊ปซี่ ทางด้านแม่ของน้องเป๊ปซี่ก็กำลังเดินทางมารับลูกสาวกลับไปอยู่ที่บ้านเกิด โดยที่ทางด้านนายหนูกาญจน์ก็ไม่ได้ขัดแต่อย่างได้ แค่พบตัวลูกสาวตนก็พอใจแล้ว แม้ว่าลูกสาวจะไม่อยากอยู่ด้วยแล้วก็ตาม แต่นายหนูกาญจน์ก็ได้ทิ้งท้ายว่าจากนี้ไปตนก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร เพราะไม่มีลูกสาวคอยช่วยเหลือ และพาออกไปทำมาหากินอีกเหมือนเดิม
ขอขอบคุณภาพจาก brighttv.co.th, เฟซบุ๊ก พัทยา อีสเทิร์นนิวส์