เดี๋ยวนี้การศัลยกรรมเพื่อความสวยความงาม เป็นเรื่องของการตลาดไปแล้ว มีการแข่งขันเพื่อให้ร้านตัวเองได้ลูกค้ามากที่สุด โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพของกระบวนการศัลยกรรมเลยแม้แต่น้อย ดังตัวอย่างจากกรณีของนางริต้า นูเจนท์ คุณแม่ชาวอังกฤษวัย 31 ปี ที่โดดเข้าทำศัลยกรรมจมูกทันทีเห็นส่วนลดครึ่งราคาแสนล่อตาล่อใจ สุดท้ายต้องปวดร้าวเพราะจมูกพัง ปลายจมูกเบี้ยวบิดผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด แถมแพทย์หนีการรับผิดชอบ ซ้ำร้ายมาทราบทีหลังว่าทำงานผิดพลาดกับคนไข้มาแล้วหลายราย
ราย งานจากเว็บไซต์เดลี่เมล วันที่ 1 มกราคม 2557 ระบุว่า นางริต้า ตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูกกับนายแพทย์เอลเฟมิ เอดยินก้า เอดออกบ้า (Dr. Olufemi Adeyinka Adeogba) ที่เบิร์กเดลคลินิก เมืองครอสบี้ มณฑลแลงคาเชียร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2554 โดยเธอยอมรับว่าตัดสินใจง่ายขึ้นทันทีที่เห็นว่ามีส่วนลดครึ่งราคา เหลือจ่ายเพียง 2,200 ปอนด์ (ประมาณ 110,000 บาท) แต่เมื่อทำแล้วกลับรู้สึกว่าจมูกผิดปกติอย่างมาก โดยเธอระบุว่ามีแผลเย็บอยู่ตลอดแนวผนังกั้นโพรงจมูก เจ็บ และรู้สึกถึงรสขม ๆ ในลำคออยู่ตลอดเวลา แพทย์บอกแต่เพียงว่าต้องให้เวลามันรักษาตัวมากกว่านี้จึงจะเข้าที่ แต่เมื่อรู้สึกว่าอาการเช่นนี้ไม่ทุเลา มีแต่จะแย่ลงเรื่อย ๆ จึงกลับเข้าพบแพทย์อีกครั้ง แต่กลับได้รับการแจ้งว่าแพทย์ไม่ว่างอยู่ทุกครั้งไป จนผ่านไปหกเดือนก็เกิดอาการปลายจมูกยุบอย่างชัดเจน ถึงตอนนี้เธอเสียใจและผิดหวังที่สุด กับการตัดสินใจของตัวเองในวันนั้น
อย่างไรก็ดี นางริต้าได้ร้องเรียนไปยังสมาคมศัลยแพทย์พลาสติกเพื่อความงามแห่งประเทศ อังกฤษ และได้รับการศัลยกรรมแก้ไขจมูกไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงเห็นว่าปลายจมูกของเธอเบี้ยวและยุบอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเธอหวังว่าอาจช่วยให้มันดูปกติขึ้นกว่านี้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
ทางด้านหมอเอดออกบ้า เมื่อถูกร้องเรียนโดยนางริต้า ชื่อของเขาก็ถูกถอดออกจากทะเบียนศัลยแพทย์โดยทันที อีกทั้งเมื่อสอบประวัติย้อนลงไป ก็พบว่าเคยทำให้คนไข้เกิดความเสียหายเช่นนี้มาหลายครั้ง อาทิ บกพร่องในการสอบประวัติการกินยาและรักษา จากคนไข้ที่มารักษากับเขา, หัวนมคนไข้กลายเป็นสีดำคล้ำเพราะสูบบุหรี่ หลังแพทย์รายนี้ไม่ได้ให้คำแนะนำในการรักษาตัวหลังการผ่าตัด และยังมีคนไข้รายหนึ่งเกิดรอยบุ๋มที่เต้านม และหัวนมอยู่สูงเกินไปหลังการศัลยกรรม แต่เขากลับไม่รับผิดชอบ ทั้งยังบอกให้คนไข้ใส่ซัพพอร์ตบราแทน ฯลฯ จึงพิจารณาว่า มาตรฐานการรักษาของนายแพทย์เอดออกบ้าต่ำเกินรับได้ หากยังคงให้เป็นแพทย์ต่อไป จะทำให้คนไข้ของเขาตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างร้ายแรง จึงถอดออกจากทะเบียนแพทย์โดยทันที
ทางด้านเบิร์กเดลคลินิก ที่ศัลยแพทย์นายนี้เคยทำงานอยู่ และที่ซึ่งริต้าเข้ารับการศัลยกรรม ก็ปัดที่จะรับผิดชอบไม่ว่ากรณีใด ๆ ด้วยเหตุผลว่า เจ้าของร้านคนปัจจุบันได้เทคโอเวอร์กิจการไปหลังจากที่เกิดเหตุขึ้นแล้ว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใด ๆ กับเจ้าของเดิม จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบกรณีของเธอ
สาว ๆ ในแวดวงศัลยกรรม หรือที่กำลังสนใจจะทำศัลยกรรมอยู่ ก็ขอให้นำเรื่องราวนี้เป็นอุทาหรณ์เอาไว้ แม้เรื่องจะไม่ได้เกิดในบ้านเรา แต่สถานการณ์หลาย ๆ อย่างก็นับว่าใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะการตัดสินใจฉับพลันเพราะราคาโปรโมชั่นแรง ๆ จนขาดความรอบคอบที่จะศึกษากระบวนการขั้นตอนการศัลยกรรมที่ถูกต้อง รวมถึงความน่าเชื่อถือของแพทย์ผู้ลงมือด้วย อย่าปล่อยให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อเช่นนี้เลยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก gluckgist.com
