กรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค. นายอิทธิชัย หรือบัส กิ่งแก้ว อายุ 28 ปี ก่อเหตุปิตุฆาตใช้มีดปาดคอนางชนาภา คุ้มไพฑูรย์ อายุ 46 ปี แม่บังเกิดเกล้า จนเสียชีวิต แล้วยังทำร้ายร่างกายนายนาถ กิ่งแก้ว อายุ 49 ปี บิดาจนบาดเจ็บสาหัส หลังมีปากเสียงกันภายในบ้านพักซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งออกติดตามล่าหาตัวทันทีนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 13 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเห็นนายอิทธิชัย อยู่ที่บริเวณศาลาที่พักรอรถโดยสาร ริมถนนสายเอเชีย หมู่ที่ 5 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบนายอิทธิชัยนั่งอยู่ในศาลาจริง จึงเข้าจับกุมตัว แล้วนำมาสอบสวนยัง สภ.เมืองอ่างทอง
สอบสวนนายอิทธิชัย ยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือฆ่าปาดคอแม่ของตัวเองจริง สาเหตุเนื่องมาจากแค้นที่ถูกแม่ด่า โดยแม่ของตนหลังจากกลับจากทำงานมา พอเข้าบ้านมาก็จะด่าว่าตน หาว่าอยู่บ้านไม่เก็บไม่ทำบ้าน ปล่อยให้บ้านรก ด่าแบบนี้บ่อย จนตนอายเพื่อนบ้าน วันนี้ตนก็ถูกด่าอีก จึงโต้เถียงและมีปากเสียงกับแม่ ก่อนจะก่อเหตุดังกล่าว
นายอิทธิชัยกล่าวว่า ขณะก่อเหตุไม่ได้คิดอะไรเลย ตอนนั้นมีแต่ความแค้นอยู่ในตัว กรณีที่ทำร้ายพ่อก็เพราะมาห้ามตน และพ่อก็เข้าข้างแม่ ส่วนประเด็นเรื่องยาเสพติดนั้น เมื่อก่อนตนเคยติดยาเสพติด จนกระทั่งให้มีอาการคล้ายเป็นโรคประสาท จนที่บ้านต้องพาไปบำบัด แต่ตอนนี้ตนเลิกแล้ว แต่ยังมีอาการทางประสาทอยู่ เนื่องจากไม่ได้ไปกินยารักษาอาการอย่างต่อเนื่อง ยอมรับว่าหลังก่อเหตุได้หาทางหลบหนี โดยเตรียมโทร.หาเพื่อนและหลบไปอยู่กับเพื่อนที่ จ.สมุทรปราการ แต่ยังไม่ได้ทันที่จะไปก็ถูกจับกุมตัวเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง สอบถามกับนายอิทธิชัยว่าทราบหรือยังว่าแม่ได้เสียชีวิตแล้ว นายอิทธิชัยก็ตอบมาทราบตั้งแต่แรกแล้ว และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่าจะพาไปขอขมาศพแม่ และขอโทษพ่อที่โรงพยาบาลจะไปหรือไม่ นายอิทธิชัยก็ตอบว่ายังไงก็ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถามอีกว่า แล้วอยากไปหรือไม่ นายอิทธิชัยตอบว่า “ไม่ดีกว่า” เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายอิทธิชัยสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนเรื่องจะทำแผนหรือไม่ อย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานอีกครั้ง