ขณะนี้ในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูลของสมาชิกพันทิปรายหนึ่ง ซึ่งได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมริมฝีปากให้มีรูปปากกระจับบางลง โดยได้ตั้งกระทู้ ว่า อุทาหรณ์ ทำปากกระจับคิดก่อนทำดีๆ และปัญหาเมื่อไปทำฟัน เป็นความผิดพลาดที่สุดในชีวิต… โดยได้บอกเล่าเรื่องราวว่า เป็นสาวประเภทสอง ซึ่งสนใจทำศัลยกรรมทำปากให้บางลง หรือที่เรียกว่า ปากกระจับ เนื่องจากต้องการอยากมีปากสวยงาม
โดยได้ทำตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2015 เมื่อทำเสร็จตกใจมาก เพราะปากเหมือนนกเงือก แต่คิดว่า อาจต้องรอเวลาให้เข้าที่ ปรากฏว่า 7 วัน ก็ยังไม่หาย ปากก็ยังเหมือนนกเงือก จะหัวเราะหรือจะยิ้มทำไม่ได้เลย เหมือนแผลจะฉีก จนสุดท้ายเมื่อตัดไหม ก็นึกว่าจะดีขึ้น แต่ก็เหมือนเดิม คือ ไม่สามารถยิ้มหรือหัวเราะได้เลย เพราะเมื่อยิ้มจะทำให้เห็นเหงือก และไม่สามารถอ้าปากกว้างได้อีก ซึ่งน่าเกลียดมาก
โดยสมาชิกพันทิปรายดังกล่าว ระบุอีกว่า “ปัญหาหนักอีกอย่างและสำคัญมากๆ คือ จากการที่ไม่สามารถอ้าปากได้กว้าง โดยอ้าปากได้ไม่มาก 60% จาก 100% ทำให้การไปทำฟันลำบากมาก ซึ่งล่าสุดเราไปคลีนิคทำฟันเพราะฟันซี่หน้าเราเสียที่เคยอุดมันหลุดเพราะอุดหลายปีแล้วและอยากจัดฟัน ปัญหาคือ ไม่สามารถอ้าปากกว้างได้ ใส่เครื่องถ่างถ่างได้นิดเดียว เหมือนปากเด็กอนุบาลอ่ะค่ะ อารมณ์นั้น แต่ฟันใหญ่ เราร้องตลอดว่าเหมือนปากจะฉีก หมอก็กลัวปากเราจะฉีกจริงๆ เพราะมันตึง หมอถามว่าทำไมตึงอย่างนี้ คือเป็นไตที่ปากมันจะหายหมดแล้วนะคะ ปากนิ่มแล้วแต่เวลายิ้มเหมือนมันตึง เหมือนเราลองดึงหนังยางที่แข็งๆอ่ะค่ะ อยากจะดึงให้กว้างแต่มันตึงและดึงไม่ได้ แต่หมอก็ใจดีอยู่นะ ยังให้พี่ผู้ช่วยใช้วิธีเปิดปากทีละข้าง อารมณ์เหมือนกับเราเอานิ้วเข้าไปในปาก แล้วเอานิ้วชิดขอบปากด้านใดด้านหนึ่งแล้วดึงริมปากออกให้กว่าที่สุด แล้วทำ แต่คือมันลำบากมากจริงๆ มันลำบากมากกับการทำฟัน โชคดีที่หมอเรารู้จักไม่งั้นหมออื่นคงไล่เราไปทำให้ปากกว้างๆก่อนแน่ๆค่ะ ตอนนี้กลุ้มใจมาก อยากขอคำแนะนำ จะเป็นไปได้ไหมคะ ที่ปากจะกลับมาเหมือนเดิม…”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีการแชร์ข้อมูลดังกล่าว ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงความน่ากลัวในการทำศัลยกรรม บ้างแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ด้านศัยลกรรมหลายๆคน ว่ามีโอกาสจะช่วยให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ขณะที่บางรายกำลังคิดจะทำปากกระจับ แต่เมื่อทราบข้อมูลก็หยุดทำทันที ซึ่งส่วนใหญ่ต่างให้กำลังใจต่อสมาชิกรายดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ศ.นพ. อภิรักษ์ ช่วงสุวนิช นายกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งเสริมสวยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการพูดคุยกับทางศัลยแพทย์ตกแต่ง ส่วนใหญ่เคยให้คำปรึกษากรณีลักษณะนี้หลายราย โดยเฉลี่ยพบปีละ 10 รายในการเข้ามาปรึกษาปัญหาหลังการทำปากกระจับ หรือการทำศัลยกรรมให้ปากบาง ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากการทำริมฝีปากบาง แม้จะไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง แต่ผลข้างเคียงที่สำคัญสำหรับผู้หญิง หรือผู้รักสวยรักงามทุกคนคือ ปากไม่ได้รูปที่ต้องการ รวมทั้งกรณีอ้าปากกว้างไม่ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก อีกทั้ง การทำปากบางๆ ตนก็ไม่เข้าใจว่า กลายเป็นกระแสตอนไหน เนื่องจากคนฝรั่ง หรือแม้แต่คนเกาหลี ก็ไม่นิยมทำปากบางกัน เพราะรูปปากบางมักพบในผู้สูงอายุ และส่วนใหญ่จะมาฉีดเพิ่มให้ริมฝีปากหนาขึ้นเล็กน้อยด้วยซ้ำไป
“อย่างชาวต่างชาติ ก็ไม่นิยมทำปากบาง มีแต่เพิ่มริมฝีปากให้หนาประมาณ1เซนติเมตรก็มี แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ทำกัน เพราะไม่ค่อยประสบปัญหา ที่สำคัญการทำศัลยกรรมให้ปากบางนั้น ต้องตัดเนื้อริมฝีปากทิ้ง ซึ่งการตัดทิ้ง ไม่สามารถเอาคืนกลับมาได้อีก ดังนั้น หากตัดสินใจทำไปแล้ว ก็แก้ไขยากมาก เพราะต้องเอาเนื้อมาเสริมส่วนที่ขาดหายไป แต่ก็อาจไม่ได้รูปทรงเหมือนธรรมชาติที่ให้ไว้ การจะทำจึงต้องตัดสินใจดีๆ และการแก้ไขก็มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าตอนทำปากบางอีกถึง 2-3 เท่า ซึ่งการศัลยกรรมปากให้บางลง ราคาก็มีหลายแบบ แต่คาดว่าน่าจะเป็นหมื่นบาท โดยส่วนตัวไม่แนะนำให้ทำ เพราะมีความเสี่ยง เสี่ยงที่จะยอมรับ เสี่ยงที่จะไม่สวยอย่างที่ใจคิดได้ และปัญหการอ้าปากอีก ซึ่งแต่ละกรณีก็มีปัญหาแตกต่างกันไป หากมีปัญหาก็ต้องมาปรึกษาศัลยแพทย์ตกแต่งเป็นดีที่สุด” ศ.นพ.อภิรักษ์ กล่าว และว่า ขอแนะนำผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมริมฝีฝากให้เรียวบางว่า แทนที่จะทำศัลยกรรม ก็ใช้วิธีการแต่งหน้า ซึ่งปัจจุบันมีวิธีทำให้ปากหนาปากบาง มากมาย