ที่มา: Khaosod Online

 เว็บไซต์เดลีเมล์เปิดเรื่องราวสุดสะเทือนใจของครอบครัวชาวออสเตรเลีย เมื่อคุณหมอตรวจพบว่า เด็กในท้องของแม่รายหนึ่งมีภาวะผนังหน้าท้องไม่ปิดทำให้อวัยวะภายในไหลมาอยู่นอกร่างกาย แม้คุณหมอจะแนะนำให้แม่ทำแท้งเพราะเชื่อว่าหากเด็กเกิดมาแล้วไม่มีทางจะมีชีวิตปกติได้ แต่ คุณแม่ยืนยันที่จะเก็บลูกไว้ เมื่อเกิดมาจึงต้องใช้พลาสติกใส่ห่อลำไส้ แต่สุดท้ายหนูน้อยรอดชีวิตจากการผ่าตัด กลายเป็นเด็กน้อยที่มีสุขภาพดีเหมือนปกติ 

17

รายงานระบุว่า คุณหมอตรวจพบว่า ลูกในครรภ์ของนางฮอลลี ฮ็อด์กสัน ชาวเมืองบริสเบนประเทศออสเตรเลีย มีความผิดปกติ คือมีภาวะผนังหน้าท้องไม่ปิด จะทำให้ลำไส้ไหลออกมาจากรูโหว่ที่ท้องน้อย จากการตรวจเช็กอัลตราซาวด์ในช่วงอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ โดยคุณหมอแนะนำให้นางฮ็อด์กสันยุติการตั้งครรภ์หรือทำแท้ง เพราะเชื่อว่าหากทารกลืมตาขึ้นมาดูโลกจริงๆ จะไม่มีทางที่จะมีชีวิตเป็นปกติ

18

แต่หลังจากปรึกษากับสามี นางฮ็อด์กสัน ปฏิเสธที่จะฟังคำแนะนำของหมอ โดยนางฮ็อด์กสันยังไปค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตทำให้พบว่า เด็กที่มีภาวะเช่นนี้มีโอกาสมากกว่าร้อยละ 95 ที่จะรอดชีวิตจากการตั้งครรภ์ ในที่สุด ลูกชายของเธอ”เท็ดดี้” จึงเกิดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ปีที่แล้ว พร้อมด้วยกองลำไส้ที่ไหลออกมาจากช่องท้อง ซึ่งแพทย์ต้องใช้พลาสติกใสห่อไว้ทันที

19

เมื่อเวลาผ่านไป ครอบครัวจึงนำ”เท็ดดี้น้อย” รับการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าท้อง จนทารกมีอาการเป็นปกติอีกครั้ง กลายเป็นเด็กที่สดใสร่าเริงเหมือนเด็กทั่วๆไป จนแทบไม่มีใครคาดคิดว่า เท็ดดี้จะมีอาการผิดปกติที่อันตรายถึงชีวิตมาก่อนเช่นนั้น ปัจจุบันเท็กดี้มีอายุ 9 เดือนแล้ว แม่ของเท็ดดี้น้อยกล่าวอีกว่า สำหรับคุณหมอที่แนะนำให้เธอทำแท้งในตอนแรก ยังไม่เคยขอโทษครอบครัวของเธอ ที่ให้คำแนะนำเช่นนั้นออกมา

20

เรื่องน่าสนใจ