นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยถึงกรณีการพบเด็กชายจักรินทร์ อินทรา หรือน้องโจ้ หลังถูกลักพาตัวขณะกำลังเดินทางไปโรงเรียนย่านพระประแดง จังหวัดสุมทรปราการ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2556 นานเกือบ 3 ปี ว่าได้เตรียมส่งทีมสุขภาพจิตเข้าพูดคุยกับเด็กและครอบครัว เพื่อดูแลประเมินสภาพจิตใจของเด็กและวางแผนให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ตลอดจนแนะแนวทางดูแลเด็กให้กับครอบครัว เพื่อลดผลกระทบด้านจิตใจให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ โดยทั่วไปหากเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือในช่วงแรกยังคงมีอาการหวาดกลัว นอนไม่หลับ วิตกกังวลเและอาจมีอาการซึม เฉย หรือ มีพฤติกรรมก้าวร้าว แต่หากเด็กถูกควบคุมหรือเคยถูกทำร้ายอย่างรุนแรงจะต้องใช้เวลาดูแลสภาพจิตใจและหากเป็นการถูกทารุณกรรมทางเพศ การเยียวยาจิตใจจะยากกว่าเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งครอบครัวต้องช่วยกันให้กำลังใจเด็กหากเด็กยังไม่พร้อมหรือไม่อยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ควรบังคับให้รอจนกว่าเด็กจะมีความพร้อมทางจิตใจและอยากเล่าเอง หรือหากเด็กต้องการเล่าก็ไม่ควรห้าม เพราะช่วยให้เด็กได้ระบายความรู้สึกที่เก็บกดออกมา
ขณะที่พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิตและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สิ่งที่น่าห่วงที่สุด คือ สภาพจิตใจของเด็ก แนะนำครอบครัว เพื่อนบ้าน ครูและเพื่อนๆ ที่โรงเรียนปฏิบัติตัวเป็นปกติให้เข้าใจและให้กำลังใจ หลีกเลี่ยงการขุดคุ้ยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพราะจะทำให้กระทบกระเทือนจิตใจ อาจส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้า รวมทั้งสื่อมวลชนควรปฏิบัติเช่นเดียวกัน โดยต้องไม่ละเมิดสิทธิของเด็ก ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
สำหรับแนวทางป้องกันเด็กให้พ้นจากอันตรายจากคนแปลกหน้า พ่อแม่ ผู้ปกครองจำเป็นต้องสอนเด็กตั้งแต่ยังเล็ก ไม่ให้วางใจคนแปลกหน้าและให้รู้จักระวังตัวเองรวมทั้งต้องไม่ปล่อยให้ใครมาให้ของหรือเงินเพื่อป้องกันการใช้ของมาหลอกเด็ก
