พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ครั้งที่ 2/2559 ว่า
ในวันนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบ ร่างยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ. 2560– 2573 ที่กำหนดวิสัยทัศน์ “การร่วมยุติปัญหาเอดส์ ภายในปี 2573 ที่คำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชน และความเสมอภาคระหว่างเพศ”
ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ เพื่อบรรลุเป้าหมาย 3 ลด ในปี 2573 คือ 1. ลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ให้เหลือปีละไม่เกิน 1,000 คน 2. ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวีเหลือปีละไม่เกิน 4,000 คน และ 3.ลดการรังเกียจและการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศภาวะลงร้อยละ 90
นอกจากนี้ ได้เห็นชอบในหลักการของร่างนโยบาย การไม่เลือกปฏิบัติในการสมัครเข้าเรียนและการเรียนอันเนื่องมาจากเอชไอวีและเอดส์ เพื่อแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติต่อเด็กที่มีเชื้อเอชไอวีหรือสงสัยว่ามีเชื้อ เป็นแนวทางให้สถานศึกษาทุกสังกัดใช้เป็นแนวปฏิบัติ
โดยมอบให้กรมควบคุมโรค ปรับวิธีการเขียนให้มีความเหมาะสมก่อนประกาศใช้ต่อไป พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายดังกล่าว และรายงานความคืบหน้าในที่ประชุมครั้งต่อไป
ทั้งนี้ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้คาดประมาณจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ (AIDS Epidemic Model และ SPECTRUM)
สรุปสถานการณ์เอชไอวีของประเทศไทยเมื่อถึงสิ้นปี 2558 ประมาณการจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ยังมีชีวิตอยู่ 437,700 คน อายุในช่วงเด็กวัยรุ่นเยอะมากที่สุด ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 6,900 คน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เสียชีวิต 16,160 คน
และข้อมูลการติดตามจากระบบบริการฯ พบว่า ณ สิ้นปี 2558 มีจำนวนผู้ติดเชื้อฯ ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัสอยู่ทั้งสิ้น 288,231 คน (ข้อมูลจากรายงานความก้าวหน้าระดับประเทศ การดำเนินงานยุติปัญหาเอดส์ประเทศไทย ปี 2016)
ภาพประกอบข่าวจากละคร ฮอร์โมน, GTH