หน้าขาวใส เป็นเสาหลัก หนึ่งใน 4 ของความงาม อันได้แก่ clarity symmetry harmony and vivid color เรามาพูดความหมายของคำว่า Clarity กันก่อน หน้า ใสเนียน จะขาว หรือมีสีใดๆ ก็สวยได้ หากมีความใส สีสม่ำเสมอ ไม่กระดำ กระด่าง ปุ่มป่ำ แต่เรียบใส สีเดียวกันตลอด นี่แหละคือนิยาม ของ Clarity
การดูแลรักษาผิวให้ใสเนียนปิ๊งอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นหน้าที่ที่เราต้องดูแลและทำเป็นกิจนิสัย เนื่องจากปัจจัยหลักสองอย่างที่มีส่วนทำให้ผิวเราหมองคล้ำเกิดกระฝ้าจุดด่างดำได้ทุกวัน
อันแรกมีส่วนประมาณ70% คือแสงยูวีในแสงแดด ซึ่งกระตุ้นการสร้างสารสีเมลานิน ทำให้เส้นเลือดฝอยในหนังแท้แตกปลาย ปล่อยสารกระตุ้นเมลานินมากขึ้นอีก นอกจากนั้นยังทำลายDNA ของเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวสูญเสียน้ำ คอลลาเจนในผิวยืดเป็นเหตุของความหย่อนยาน ผิวหยาบกร้าน รูขุมขนกว้างต่อมน้ำมันใหญ่ หน้ามันมากเป็นสิวสูงวัย และที่สุดเป็นมะเร็งผิวหนังได้ (Photo-aging) อันที่สอง คือพันธุกรรม ซึ่งเป็นตัวกำหนดความเสื่อมสภาพของผิวและอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย
วิทยาการบำรุงรักษาผิวให้ขาวใสปิ๊งเริ่มจากการใช้เครื่องสำอางกันแดด เพื่อลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน การใช้กรดลอกกระฝ้าจุดด่างดำ (การลอกหน้าเบบี้เฟส) มีการใช้แสงเลเซอร์ที่จำเพาะต่อเม็ดสีเมลานินมากะเทาะเม็ดสีให้แตกออก(photoacoustic effect) ด้วยQ-Switched Lasers ไม่ว่าจะเป็นQ-Switched Nd:YAG, Q-Switched Ruby หรือQ-Switched Alexandrite ที่ใช้อยู่ทั่วไปก็ไม่สามารถรักษา กระ ฝ้าจุดด่างดำได้มากชนิดนัก โดยเฉพาะกระฝ้าเหล่านั้น มีเส้นเลือดฝอย ที่แตกปลายเป็นปัจจัยร่วมอยู่ด้วย เพราะถึงแม้จะกะเทาะเม็ดเมลานินให้แตกละเอียด ให้เม็ดเลือดขาวตัวโต(macrophage) มากินได้แล้วก็ตามความร้อนมากๆ จากเลเซอร์เหล่านี้จะทำให้ปลายเส้นเลือดฝอยแตกมากขึ้นไปอีกและปล่อยสาร VEGF(vascular endothelial growth factors)ออกมากระตุ้นการสร้างเม็ดสีมากขึ้น ในเวลาต่อมาเกิดหน้าดำเข้าไปอีก (hyperpigmentation)
ดังนั้น การรักษาและดูแลผิวให้แลดูขาวใส ปราศจาก กระ ฝ้า รอยด่างดำมี Clarity จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ ใช้เลเซอร์รุ่นใหม่ ที่มีความร้อนต่ำ ยิงได้ลึกถึงชั้นเส้นเลือดฝอยที่แตกปลายคือชั้น Papillary dermis และต้องมีเทคนิกการยิงเลเซอร์ที่เรียกว่า Soft Laser Technique(ซึ่งมิใช่เครื่องที่เขาเรียก Soft laser ใช้ตามบ้านที่มีพลังงานอ่อนเกินไปแค่หนึ่งในล้านของเลเซอร์ที่ใช้รักษา)แสงสีเหลืองเป็นแถบแสงที่เม็ดสีเมลานินและเม็ดเลือดแดงดูดซับได้มากที่สุด เมื่อทั้งสองตัวนี้ดูดซับพลังงานแสงเลเซอร์เข้าไปมันจะถูกทำลาย เม็ดสีเมลานินจะแตกหลุดออกมาเป็นขี้ไคล (ในส่วนที่อยู่ด้านบนของผิวหนัง) และบางส่วนถูกเม็ดเลือดขาวตัวใหญ่กิน (ในเซลล์ชั้นลึกลงไป).
ส่วนเม็ดเลือดแดงจะตาย อุดหลอดเลือดตอนปลายที่แตก เส้นเลือดฝอยก็หายแตกปลายไม่สามารถปล่อยสารVEGF ออกมากระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ กระฝ้า จุดด่างดำก็จะจางหายไปเรื่อยๆ มาทำเรื่อยๆทุกสองสัปดาห์อย่างน้อยสัก6ครั้งตามจำนวนชั้นของผิวหนังที่ลอกหลุดเป็นขี้ไคล วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการรักษากระฝ้าลึกที่มีเส้นเลือดฝอยแตกปลายเป็นปัจจัยร่วมซึ่งพบมากกว่า70% ของผู้เป็นกระฝ้าอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
เทคโนโลยีการใช้แสงสีเหลืองมารักษากระฝ้าลึกและทำให้หน้าแลดูใสทันทีตั้งแต่การรักษาครั้งแรกๆ ด้วยเทคนิกซอฟท์เลเซอร์นั้น ผมเริ่มใช้กับเลเซอร์แสงสีเหลืองรุ่นแรกที่ทำจากไอโลหะทองแดงโบรไมด์ Copper Bromide Vapor ที่เรียกว่าDual Yellow เกือบสิบปีมาแล้ว และได้รับรางวัลผู้ใช้Dual Yellow Laser ครบ 10,000 ชั่วโมงรายแรกของโลกจากผู้ผลิตDual Yellow (Norseld ,Australia) ปี 2553 และได้แนะนำ ผู้ผลิตให้ปรับปรุงเครื่องและซอฟท์แวร์เพื่อการใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เนื่องจากเครื่อง Dual Yellow เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ต้องใช้พลังงานมากในการเผาโลหะทองแดงโบรไมด์ให้ระเหยเป็นไอเพื่อสร้างแสงเลเซอร์ สีเหลืองที่มีความยาวคลื่น 578 นาโนมีเตอร์ (หนึ่งส่วนพันล้านเมตร) และได้แสงเลเซอร์สีเหลืองเพียง0.1% ของพลังงานที่ใส่เข้าไป เครื่องจึงร้อนมาก (กว่า300องศาเซลเซียส) พลังงานแสงเลเซอร์ที่ออกมาจึงไม่ค่อยสม่ำเสมอ ทำให้แพทย์ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวมากในการปรับพลังงานเพื่อให้ได้ผลดี แต่ก็เป็นเครื่องที่ทำให้ผิวแลดูใสเนียนเห็นได้ชัด ในการรักษาครั้งแรกๆ แต่ต้องทำให้ถูกวิธี กลุ่มเลเซอร์ในย่านความถี่นี้ดีที่สุด ในการทำหน้าสวยใสโดยไม่มีรอยดำด่างขาว หรือเป็นแผลตกสะเก็ด (ยกเว้นแพทย์ต้องการให้เม็ดสีแข็งๆ ตกสะเก็ด)
ผมศึกษาเครื่องเลเซอร์สีผิวตระกูลpigment lasersมาค่อนข้างนานและได้พบเครื่องรุ่นใหม่ที่ให้แสงเลเซอร์สีเหลืองความยาวคลื่น 578นาโนมีเตอร์เหมือนกัน แต่เป็นเครื่องตระกูล Diode Laser(เป็นรุ่นแรกของโลกที่ให้แสงสีเหลืองจากDiode) เครื่องเลเซอร์ชนิดนี้ชื่อ “QuadroStar ProYellow”
หน้าแลดูขาวใสด้วย QuadroStar Pro Yellow หากเป็นการรักษาให้หน้าขาวใส จะใช้พลังงานที่ต่ำ ทำให้ไม่รู้สึกร้อน อาจจะรู้สึกเพียงอุ่นๆ ถ้าเป็นการรักษากระฝ้าลึก และอื่นๆ
พลังงานจะลงลึก จึงต้องใช้ระบบcooling หรือลมเย็นช่วย จะทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลง หลังการรักษาหน้าจะใส ทันทีหรือ อีก1-3 วันหลังจากผิวที่มีเม็ดสีผลัดออกไป ในคนที่มีกระฝ้าลึก บริเวณเหล่านี้อาจคล้ำขึ้น เนื่องจากเม็ดสีอมพลังงานแสงเลเซอร์เข้าไปก่อนที่มันจะสลายไป ซึ่งจะทำให้กระฝ้าลึกนี้จางลง ส่วนที่เป็นเส้นเลือดหรือแอ่งเลือด จะแดงขึ้น แล้วจะค่อยๆ จางลงเมื่อเส้นเลือดหรือแอ่งเลือดเหล่านั้นสลายไป
ประมาณ 2-4 สัปดาห์ครั้ง อย่างน้อย 6 ครั้งติดต่อกัน คนที่เป็นมากเรื้อรัง อาจต้องรักษานานกว่านี้ ผลของเลเซอร์ก็มิได้หมดทันทีหลังจากยิงเลเซอร์ แต่มันจะอยู่อีกนาน เป็นเดือน หรือเป็นปี บางคนตอนรักษาฝ้าลึก ฝ้าไม่จางสักที หยุดไป3 เดือน ฝ้าจางลงเกือบหมด นี่เป็นผลการรักษาในระยะยาวของเลเซอร์ ด้วยวิวัฒนาการและเครื่องเลเซอร์รุ่นใหม่ๆ ทำให้การรักษาฝ้า กระจุดด่างดำหายได้อย่างถาวร แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับแพทย์ผู้มีความรู้ความเข้าใจ และความชำนาญในการใช้เครื่องเลเซอร์ อย่างจริงจัง ผิวแลดูเรียบเนียนสวยใสจึงเป็นจริงได้ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ