นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงผลดำเนินการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหาพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะกระทำความผิดซ้ำซาก หรือความผิดร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเลือกใช้บริการรถสาธารณะ
หรือเป็นความผิดที่ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ พบว่าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 – เดือนสิงหาคม 2559 มีพนักงานขับรถสาธารณะถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถแล้วจำนวน 6 ราย
ได้แก่ ความผิดฐานปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร จำนวน 2 ราย เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ทางราชการกำหนด จำนวน 2 ราย และมีพฤติกรรมลามกอนาจาร จำนวน 2 ราย ในส่วนของการลงโทษพักใช้ใบอนุญาตขับรถสาธารณะจำนวน 116 ราย
ได้แก่ แท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร จำนวน 59 ราย ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร จำนวน 9 ราย ไม่ส่งผู้โดยสารตามจุดหมายปลายทางที่ได้ตกลงกันไว้ จำนวน 6 ราย แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ จำนวน 5 ราย เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ทางราชการกำหนด จำนวน 2 ราย มีพฤติกรรมลามกอนาจาร จำนวน 2 ราย ไม่แสดงบัตรประจำตัว จำนวน 1 ราย และอีกจำนวน 32 ราย เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนใช้รถจักรยานยนต์ป้ายดำรับส่งผู้โดยสาร สำหรับผู้กระทำความผิดที่ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถภายหลังครบกำหนดพักใช้และกลับไปขับรถให้บริการ
หากพบการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการหรือตรวจสอบพบว่ายังมีพฤติกรรมกระทำความผิดซ้ำเกิดขึ้นอีก อาจพิจารณาพักใช้ในระยะเวลาที่นานขึ้นหรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที
โดยกรมการขนส่งทางบกได้จัดเก็บประวัติการกระทำความผิดของผู้ขับรถโดยสารสาธารณะทุกรายไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก และในกรณีที่ผู้ขับรถกระทำความผิดอาญา ความผิดร้ายแรง หรือทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยว เช่น ทำร้ายร่างกายผู้โดยสาร กระทำอนาจาร ส่งตัวดำเนินคดีและเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที
กรมการขนส่งทางบกเข้มงวดกวดขันการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทตามนโยบายของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการลงโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมายอย่างจริงจัง การบังคับใช้มาตรการลงโทษพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถของผู้ขับรถกระทำความผิดซ้ำซาก
พร้อมประสานความร่วมมือกับทหารและตำรวจ ในการลงพื้นที่ตรวจสอบพฤติกรรมการให้บริการรถโดยสารสาธารณะในพื้นที่ที่มีประชาชนเรียกใช้บริการเป็นจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่ที่มีปัญหาการร้องเรียนสูง
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการให้บริการรถแท็กซี่ไม่เป็นธรรม เอาเปรียบผู้โดยสาร สามารถร้องเรียนมายัง กรมการขนส่งทางบกได้ทันที โดยระบุรายละเอียดของรถ หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุลผู้ขับรถ สถานที่ใช้บริการ เพื่อให้การติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
โดยสามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
เครดิตภาพจาก บางกอกทูเดย์