น้อยคนนักที่จะมีโอกาสประสบความสำเร็จบนเวทีประกวดระดับประเทศทั้ง 2 ประเภท คือทั้ง “นางแบบ” และ “นางงงาม” สำหรับ “มิลค์-ภัทลดา กุลภัคธนภัทร์” สาวกรุงเทพมหานคร วัย 24 ปี ค่ำคืนนี้ ( 8 ตุลาคม 2559 ) เธอจะอำลาตำแหน่ง “อีลิท โมเดล ลุค ไทยแลนด์ ปี 2014” ซึ่งกำลังมีการประกวด “อีลิท โมเดล ลุค ไทยแลนด์ ปี 2016” รอบชิงชนะเลิศ ณ เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช หลังจากที่ครองตำแหน่งถึง 2 ปี เนื่องจาก ปี 2015 งดจัดการประกวด
เธอเล่าว่า เคยเข้าประกวด “อีลิท โมเดล ลุค ไทยแลนด์ ปี 2012” เข้ารอบแค่ 25 คนสุดท้าย ตอนนั้นอายุ 20 ปี เรายังไม่เป็นอะไรเลย รู้แต่ว่าอยากเป็นนางแบบ มิลค์มาสมัคร โดยไม่มีต้นทุนนางแบบ เพราะไม่เคยไปฝึกที่ไหน ไม่เคยประกวดที่ใด
แต่การประกวดในครั้งนั้นได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้มากมาย เป็นการจุดประกายให้มิลค์มุ่งมั่นที่จะเดินทางสู่ถนนแคตวอล์กให้ได้ ลงจากเวทีมา มิลค์ก็ไปแคสงานเดินแบบ ถ่ายแบบ งานโฆษณา ทำทุกอย่างเพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชีวิตของการเป็นนางแบบ เราได้พิสูจน์ถึงความตั้งใจของตนเอง จึงมีงานเข้ามาเรื่อย ๆ
กระทั่งในปี 2014 มิลค์ตัดสินเข้าประกวด “อีลิท โมเดล ลุค ไทยแลนด์ ปี 2014″ อีกครั้ง โดยไม่คิดว่าจะต้องได้ตำแหน่งอะไร คาดหวังมาก ๆ หากไม่เป็นไปตามที่เราหวังจะเสียใจมาก ๆ ไม่แพ้กัน เพียงอยากทดสอบตัวเองว่า 2 ปีที่ผ่านมา เราได้ปรับปรุงและพัฒนาทักษะความเป็นนางแบบของตัวเองไปได้ไกลแค่ไหนเท่านั้นเอง
ปรากฏว่ามาสอบผ่าน มาไกลกว่าที่คิดเสียอีก ซึ่งมิลค์ตั้งธงชีวิตไว้คือ เราจะทำงานอะไรก็ตาม ต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด แม้ว่าหนทางจะมีอุปสรรคมากน้อยเพียงใด ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ หนึ่งสมอง สองมือ สองขาที่แน่วแน่ ถึงแม้ว่าจะแพ้แต่ก็มีความภาคภูมิใจ
“มิลค์ดึงความเป็นธรรมชาติของตัวเองออกมา สร้างเอกลักษณ์ส่วนตัว พร้อมทั้งทำเข้าใจคำว่า นางแบบ คืออะไร คือคนที่พรีเซนต์เสื้อผ้าตามที่ได้รับโจทย์ โดยเฉพาะจากลูกค้า ไม่ว่าชุดจะออกแบบอย่างไร ต้องทำได้ ไม่มีสิทธิ์เลือก ไม่อิดออดว่า ไม่สวย ไม่เหมาะ ไม่เท่ ไม่อยากใส่ จะพึงระลึกอยู่เสมอว่า เราเป็นไม้แขวนเสื้อที่พอเอาชุดเสื้อผ้ามาแขวนแล้วต้องให้ดูดี สะดุดตา ไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่ใด ๆ นั่นคือสิ่งที่ท้าทายต่างหาก”
มิลค์ เล่าด้วยว่า เวทีอีลิท โมเดล ลุค ไทยแลนด์ เสมือนให้ชีวิตใหม่ของการก้าวสู่โลกแห่งนางงามจักรวาลแห่งแฟชั่น การเป็นอีลิทโมเดล ทำให้เราไม่เพียงแค่ได้รับโอกาสในบ้านเราเท่านั้น หากแต่ยังก้าวไปสู่งานอินเตอร์ มีโอกาสร่วมงานกับต่างประเทศ แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ การรักษามาตรฐานความเป็นนางแบบสากล ที่นอกจากจะดูแลรูปร่างและหน้าตา ตลอดจนพัฒนาศักยภาพความเป็นนางแบบแล้ว
เรื่องนิสัยใจคอก็ต้องเป๊ะ อย่างเรื่องความมีระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ไม่ขี้เหวี่ยงขี้วีน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ มีความเป็นทีมเวิร์กที่ดี นี่คือสิ่งที่นางแบบและนายแบบ ควรต้องมีอย่างยิ่ง
ต้องขอขอบคุณ อีลิท โมเดล ลุค ไทยแลนด์ และ คุณเอ็ดเวิร์ด กิตติ ประธานกรรมการ บริษัท อีลิท โมเดล แมเนจเม้นท์ เซ้าท์อีสท์เอเซีย จำกัด คุณกฤษฎา ทิพย์ประสิทธิ์ ออแกไนซ์ผู้ให้คำแนะนำ รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ที่ให้โอกาสที่ดี มิลค์สัญญาว่า จะเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวสู่สากลและเป็นยอมรับ โดยเฉพาะวงการนางแบบนายแบบ
สำหรับการเข้าประกวดเวทีนางงามระดับประเทศอย่าง “มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2016” ที่เธอเพิ่งจะคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 มานั้น เธอเล่าว่า เป็นอีกสีสันหนึ่งของชีวิต มิลค์คิดว่าตัวเองไม่ได้สวย แต่มีความสมาร์ทในแบบฉบับของตนเองที่ไม่เลียนแบบใคร แล้วเวทีนางงามในยุคนี้เสมือนลูกครึ่ง ที่ผสมผสานเอาความเป็นนางงามกับนางแบบไว้ด้วยกัน
นางแบบจะมีลุคนิ่ง ๆ สง่า ๆ ทะมัดทะแมง ไม่ค่อย ๆได้พูดอะไรกับใครสักเท่าไหร่ เพราะเราคือไม้แขวนเสื้อ ส่วนลุคนางงามก็ต้องยิ้มแย้ม ต้องส่งสายตาแห่งความเป็นมิตร มีความเป็นคนของประชาชน มีกิจกรรมเพื่อสังคมที่จะเข้าไปร่วมมากมาย
“สำหรับในอนาคตนั้น มิลค์อยากทำงานในวงการแฟชั่นระดับสากล หากมีโอกาสจะใช้ความรู้ความสามารถที่จบปริญญาตรีมาจาก คณะนิเทศศาสตร์ สาขา สาขาวิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยสยามมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดทั้งต่อตนเองและสังคม หากทุกคนฝันให้ไกลแล้วต้องไปให้ถึง สักวันต้องเป็นวันของเรา เหมือนเช่นมิลค์ค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนสร้างความสำเร็จให้กับมิลค์ได้มีจุดยืนที่แข็งเข้มและมั่นคง และมิลค์เป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ”
เครดิตภาพ และ ข่าว สำนักข่าวบางกอก ทูเดย์ ออนไลน์