เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายวิโรจน์ หวั่นท๊อก นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา จ.น่าน เปิดเผยความรู้สึกย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ในวันที่ 16 มีนาคม 2501 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ ที่ว่าการอำเภอสา อ.เวียงสา จ.น่าน ซึ่งในครั้งนั้นตนยังเป็นเด็กนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อายุประมาณ 12-13 ปี ได้ถูกมอบหมายให้เป็นหัวหน้าลูกเสือเพื่อเข้าร่วมรับเสด็จฯ
“บรรยากาศในวันนั้นผมยังจำได้ดี มีประชาชนและชนเผ่าต่างๆจากหลายอำเภอเดินทางมารอเฝ้ารับเสด็จฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนินในอาคารไม้แห่งนี้ และทรงประทับที่หน้ามุขของอาคาร หลังจากนั้นทรงเสด็จฯลงมาเยี่ยมราษฎรที่มาเข้าเฝ้าฯ ผมยังคงจำภาพที่พระองค์ลูบศีรษะชนเผ่าที่มาเข้าเฝ้ารับเสด็จฯ ได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่จดจำมิรู้ลืมคือพระเจ้าอยู่หัวฯทรงตรัสถามว่า “อยู่โรงเรียนไหน” และด้วยความตื้นตัน ตื่นเต้น ประหม่า แม้จะซ้อมมาเป็นอย่างดี แต่ก็พูดได้เพียง ขอเดชะ ขอเดชะ ขอเดชะ พูดอยู่แค่นั้น จนทรงกระซิบรับสั่งด้วยพระเมตตาว่า “พูดตามธรรมดาก็ได้” นั่นเป็นภาพความทรงจำที่มีคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้แล้วในชีวิต และหลังจากนั้นไม่เคยได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จฯในหลวงอีกเลย” นายวิโรจน์ กล่าว
นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา กล่าวต่อว่า แต่แรงบันดาลใจที่ตราตรึง ทำให้เมื่อได้มีโอกาสทำงานรับใช้บ้านเมืองในตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา ใช้ความสามารถอย่างที่สุดที่จะอนุรักษ์อาคารไม้ประวัติศาสตร์แห่งนี้ไว้ แม้จะมีบางส่วนเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว แต่ก็พยายามทำกลับคืนมาให้เหมือนเดิมมากที่สุด เพื่อทำเป็นนิทรรศการ “อนุสรณ์รอยพระบาทแรกแห่งแผ่นดินน่าน” นอกจากนี้ ยังได้พยายามติดตามพระราชอาสน์หรือ “เก้าอี้พระที่นั่ง” ซึ่งทรงประทับในวันนั้น ให้กลับคืนมาไว้ที่อาคารไม้ประวัติศาสตร์แห่งนี้อีกด้วย
“เก้าอี้ที่ประทับ” เป็นเก้าอี้ไม้แกะสลักลวดลายเป็นครุฑ ซึ่งหายไปกว่า 10 ปีแล้ว หลังสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการ “รอยพระบาทแรกแห่งแผ่นดินน่าน” ขึ้นในปี 2554 ผมพยายามสืบค้นและติดตามสิ่งของเก่าๆ จนในที่สุดเมื่อปี 2557 สามารถติดตามพบเก้าอี้พระที่นั่ง ซึ่งมีผู้ที่ได้เก็บรักษาไว้ จึงขอนำกลับคืนมายังอาคารไม้ดั่งเดิม” นายวิโรจน์ กล่าว
สำหรับอาคารไม้ประวัติศาสตร์แห่งนี้ สร้างขึ้นในปี 2492 และสร้างเสร็จในปี 2495 เป็นที่ว่าการอำเภอสา ปัจจุบันคืออาคารสำนักงานเทศบาลตำบลเวียงสา ที่ยังคงสภาพให้เหมือนเดิมมากที่สุด ซึ่งถือเป็นอาคารไม้แห่งเดียวในจังหวัดน่าน ปัจจุบันยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ซึ่งมีสิ่งของโบราณ เรือขุดน่าน จัดแสดง รวมถึงการดำเนินรอยตามคำสอนด้านเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว
“สำหรับชาวอำเภอเวียงสานั้น ยังคงยึดมั่นในคำสอนและใช้ชีวิตแบบพอเพียง นอกจากนี้ เวลาที่ทำงานเจออุปสรรคมากมาย เหนื่อยและท้อ ผมจะเฝ้ามองดูพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงที่ทรงนั่งพิงล้อรถจิ๊ปบนสะพานไม้และทรงงานท่ามกลางความเหนื่อยยาก ซึ่งเป็นภาพที่ชอบมากที่สุด จนนำมาติดตั้งไว้ในห้องทำงาน เพื่อใช้เป็นแรงบันดาลใจ เมื่อต้องเจอปัญหาอุปสรรคในการทำงาน ทำให้ผมและเจ้าหน้าที่ทุกคนมีกำลังใจ ที่จะต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อไป” นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสา กล่าว