บุคคลในเครื่องแบบมากเสน่ห์ที่เป็นต้นแบบดีๆ ให้เยาวชนคนรุ่นหลังได้ปฏิบัติตาม เราอยากนำเสนอเพื่อเป็นแรงบันดาลใจดีๆ คือ ร.ต.ท.บัญญวัต ทองสวรรค์ ( น้องไผ่ ) รอง สว. (สอบสวน) สภ.ลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 69 หนุ่มตี๋ ตัวเล็ก หน้าเด็ก ใจดี
ผู้หมวดไผ่ กล่าวว่า ความฝันในวัยเยาว์ ตอนเป็นเด็กเป็นคนชอบเล่นเกี่ยวกับรถบรทุกมาก ทำให้เวลาหลายคนถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไรมักจะตอบคนที่ถามกลับว่า “อยากเป็นคนขับรถบรรทุกครับ” ( 555 )
จนกระทั่งโตขึ้นได้เข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ที่โรงเรียนอุตรดิตถ์(โรงเรียนประจำจังหวัด) ยอมรับครับว่าไม่เคยคิดถึงอนาคตว่าอยากเป็นอะไรในรุ่นอายุเท่านั้น จนกระทั่งมีพี่จากโรงเรียนเตรียมทหาร มาแนะแนวที่โรงเรียน ผมมองพี่พวกนั้น แล้วอุทานในใจคนเดียวว่า “เท่มากๆเลยครับ” ทำให้เย็นวันนั้นผมได้กลับบ้านไปบอกเตี่ยกับแม่ ว่าผมอยากเป็นนักเรียนเตรียมทหาร วันนั้นจุดประกายความฝันในวัยเด็กของผม
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด อยากหาที่ติวสอบเข้า พ่อแม่ เลยเห็นความตั้งใจ ในความฝัน. ท่านจึงไปหาข้อมูล รวมถึงสถานที่ติวที่สามารถทำความฝันของผมให้เป็นจริงได้ ท่านจึงถามผมว่า “อยากไปติวที่กรุงเทพไหม”
และเมื่อผมตอบตกลง ก็ทำให้ต้องเข้ามาเรียนที่ กรุงเทพครับ เพื่อเดินตามความฝันฝนของตัวเอง พอมาเรียนกวดวิชา ปีแรก งงๆ ครับ ไปสอบแบบ งงๆไม่ติดซักเหล่า รู้สึกเศร้ามากๆ แต่ก็คิดในใจว่าเราคงพยายามไม่พอ ความสำเร็จจึงยังมาไม่ถึง ปลอบใจตัวเองกลับมาเริ่มใหม่ ปีหน้าเอาใหม่และต้องทำให้ได้
กลับมาเรียน ม4 ต่อ วันๆ อ่านหนังสือทำโจทย์เกี่ยวกับข้อสอบเข้าอย่างเดียว ทำให้ผมจากการไม่เคยติด 0 เลย แต่ ม 4 ผมติด 0 รวดเดียว รวม 12 ตัวครับ บ้านแทบแตก แต่ ใจผมอยู่ที่โรงเรียนเตรียมทหารไปหมดแล้ว ผลจากการตั้งใจอ่านหนังสืออย่างจริงจังในปีนั้น ผมสอบติดเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองทัพบกครับ แต่ตัดสินใจ เลือกที่จะเป็นตำรวจ
หลังจากสอบเสร็จเข้ามาเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ผ่านการฝึก การปลูกฝัง เป็นเวลา 3ปี จากนั้นได้มาเรียนต่อในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อีก 4 ปี. จากเด็ก ที่ไม่เคยคิดอะไร ไม่เคยคิดอยากจะทำอะไร เพื่อคนอื่นความคิดเปลี่ยนไปมาก เมื่อโรงเรียนนายร้อยตำรวจปลูกฝัง ให้ดูแลคนอื่นคือประชาชน เรื่องของเรามาทีหลัง เรื่องเดือดร้อนของประชาชนต้องมาก่อน โรงเรียนนายร้อยตำรวจสอนให้ทุกคนเสียสละตัวเอง สอนให้เรารักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้เรามีจิตสำนึกในใจที่อยากจะทำเพื่อสังคม
ผมเลือกอาชีพตำรวจเพราะเป็นอาชีพอีกอาชีพนึงที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด อยู่กับปัญหาของประชาชนมากที่สุด ผมจึงคิดเสมอว่าเราสามารถช่วยเหลือประชาชนได้มากที่สุดเช่นกัน โดยยึดคติประจำใจของผมครับ
“ทำดีไม่ได้ดี แต่ก็ยังดีที่ได้ทำ” คำพูดนี้ผมจำครับได้ยินครั้งแรกจากรุ่นพี่ รุ่น 61 ผู้หมวดปกครอง ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พูดให้ผมฟังในวันนั้น ผมยึดคำพูดนั้นมาตลอดทั้งการทำงานและการดำเนินชีวิตประจำวัน
นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 69 รวมตัวทำความดีที่สนามหลวง นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 69 ความจริงคือเรียนจบแล้ว และแยกย้ายไปทำงานที่อื่น เมื่อพวกเราทราบข่าวทางทีวี จึงคุยกันและลงความเห็นว่า เราจะไปแจกน้ำ น้ำหวาน ผ้าเย็นที่บริเวณท้องสนามหลวงเพื่อบริการประชาชนคนไทยที่เดินทางมา กราบพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
ซึ่งเป็นแนวคิดของคณะกรรมการรุ่นที่ 69 และเพื่อนในรุ่น ว่าต้องการทำอะไรซักอย่างแม้จะน้อยนิดแต่เราก็อยากทำด้วยใจ พวกเรารวมเงินกันภายในรุ่นเพื่อที่จะทำให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้น
ประชาชนคนไทยรักในหลวง และผมจะขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป บรรยากาศในวันนั้นที่ท้องสนามหลวง ผมรู้สึกมีความสุขอย่างมาก กับการแจกน้ำ ทิชชู่ ผ้าเย็น ให้ประชาชนคนไทยที่เดินทางมากราบพระบรมศพ เพราะได้เห็นความรักและศรัทธา ของคนไทย แม้อากาศจะร้อน แต่เราทุกคนก็ทำด้วยความเต็มใจ
ผมเอง เป็น 1 ในประชาชนทั้งหมดของประเทศ ที่มี ผมอยากให้คนไทยเรารักกันในวันที่ไม่มีพ่อ เราทุกคนต่างมีหน้าที่ ที่ต้องทำ มีทุกอาชีพที่ต้องดำเนินต่อไป อยากให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่ละคนต่างช่วยกันทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะผมเชื่อว่าบ้านที่เราเรียกว่าประเทศไทยจะอบอุ่นได้ ต้องร่วมใจมาจากพวกเราคนในบ้านทุกคนเช่นกันครับ
ขอขอบคุณภาพ และ ข้อมูล จาก policenewsvarieties