จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ในการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ระหว่างทีมชาติไทยและทีมชาติอินโดนีเซีย กลุ่มกองเชียร์ที่ใช้ชื่อว่าอัลตร้าไทยแลนด์ มีการจุดพลุแฟลร์สีแดงจนเกิดควันและประกายไฟ ก่อความรำคาญให้กับผู้ร่วมเชียร์ รวมทั้งในโลกออนไลน์ยังมีการโจมตีเรื่องนี้อย่างหนัก จนหลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าทีมชาติไทยอาจถูกลงโทษจากคณะกรรมการฟีฟ่าได้
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พล.ต.ต. นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจพื้นที่บริเวณอัฒจรรย์ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถานและเก็บพลุแฟลร์ไปตรวจสอบ ขณะนี้พบว่าเจ้าหน้าที่สามารถเก็บได้จำนวนกว่า 10 อัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือ อีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งลายนิ้วมือส่วนหนึ่งที่เก็บได้ จะนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลในกองทะเบียนประวัติอาชญากร หากพบว่าตรงกับบุคคลใดจะเรียกตัวมาทำการสอบสวน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอื่นๆอีกจำนวนหนึ่งที่เก็บได้ภายในสนาม แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ส่วนความคืบหน้าในการออก หมายจับหรือหมายเรียกขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเทียบเคียงบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่าย, คลิปวีดีโอ, และพยานมากกว่า 10 ปาก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ มีข้อมูลอยู่ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฯ ได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกของกองเชียร์กลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ มาแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอต่อการระบุชี้ชัดตัวผู้ก่อเหตุ หลังจากนี้อาจต้องมีการประสานขอข้อมูลรายชื่อของสมาชิก และแกนนำจากสมาคม มาตรวจสอบ ซึ่งสมาชิกของกลุ่มดังกล่าวมีจำนวนกว่า 1,000 คน อย่างไรก็ตามพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆตรวจสอบ การจำหน่ายพลุแฟลร์ในพื้นที่ต่างๆ และในโลกออนไลน์ ซึ่งมีการขายกันอย่างเปิดเผยหากพบว่าเข้าข่ายความผิดตามข้อกฎหมายใดก็จะดำเนินการทันที
